15/4/60

Sono Orc, Moto Yakuza nite / ออร์คตัวนั้นมันเคยเป็นยากูซ่า

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 2 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : "ฉันเกลียดออร์คอย่างพวกแก โดยเฉพาะเจ้าตัวไร้ค่าอย่างแก"

ที่นี่คือ เมืองใหญ่อัลบัสตร้า ตอนที่คิเซะ ริวเฮได้สติ เขาพบว่าตัวเองกลายเป็นนักโทษ "ออร์ค" = เรกัส และผู้ที่เกลียดและแค้นเขา แต่ต้องรับตัวมาอยู่ในกลุ่ม "อัศวินปีกสวรรค์" ภายใต้การนำของตัวเองคือสกายเอลฟ์หญิงชื่อ วิโอล่า

ทั้งคู่ขัดแย้งกัน พร้อมกับเริ่มถูกดึงดูดเข้าหากัน อีกด้านหนึ่งความนึกคิดของเรกัสก็หยุดลงตั้งแต่วันนั้น

ฉันอยู่ที่ไหน ฉันเป็นอะไรกันแน่

ขณะที่รู้สึกเช่านั้น ความมืดภายในตัวเมืองรุกคืบมาหาวิโอล่า นั่นคือผลกรรมของชาติก่อนกับชาตินี้งั้นเหรอ ชายผู้ค้นหาคำตอบนั้นยืนหยัดขึ้น จงสู้ ออร์ค จงบดขยี้โชคชะตาให้สิ้นซาก

ผลงานได้รับรางวัลชนะเลิศของการประกวดงานเขียน GA บุนโกะครั้งที่8
ความเห็นส่วนตัว : คนที่อ่านเรื่องย่อหรือปกหลังแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านเนื้อเรื่อง ขอให้ลืมมันไปซะครับ 555+ แม่งเขียนซะ ตรูนึกว่าเป็นคนล่ะเรื่อง ส่วนคนที่ยังไม่ได้อ่านก็ดีแล้วครับ ไม่ต้องอ่านมันหรอก นี่ขนาดผลงานการันตีด้วยรางวัลชนะเลิศนะเนี่ย เขียนปกหลังได้แค่นี้เองเรอะ

แล้วก็ ตรงหน้าแนะนำตัวละคร ถ้าเป็นไปได้ อย่าเพิ่งอ่านนะครับ อ่านจบเรื่องก่อนแล้วค่อยมาดูก็ได้ เพราะถ้าอ่านหน้าแนะนำตัวละครอย่างจริงจัง บางที รูป หรืออะไรในหน้านั้น มันจะสปอยอะดิ

อีกเรื่องนึง ทำไมคำว่าออร์ค สนพ.ไทยเราใช้คำว่า Ork หว่า หาข้อมูลเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ จะที่ไหนเค้าก็ใช้ Orc ไม่ใช่เหรอ เอาเหอะ ช่างมัน

เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี สไตล์ระลึกชาติได้ หรือที่คนชอบเรียกว่ากลับชาติมาเกิดใหม่ครับ พระเอกเป็นออร์คหนุ่ม ในโลกแฟนตาซีสไตล์ดาบและเวทมนต์ แต่เปิดเรื่องก็อยู่ในคุกซะแล้ว 555+ แล้วจู่ๆก็ดันนึกออกว่าตัวเองในชาติก่อนเป็นยากูซ่า อยู่ที่ญี่ปุ่น เคยเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง แต่พอมันระลึกชาติได้ ความทรงจำในชาตินี้ของตัวเองดันเลือนลางนี่สิ ซึ่งจริงๆก็พอเข้าใจแหละ ว่าคนเขียนมันต้องการดริฟ เลยยัดเหตุผลแบบนี้เข้ามา ไม่งั้นมันจะดูไม่เหมือนกลับชาติมาเกิดใหม่ แต่เหมือนเอาวิญญาณของคนๆนึงมายัดในร่างใหม่มากกว่า และถ้าจะเขียนให้ดูเหมือนกลับชาติมาเกิดใหม่แบบจริงๆจังๆ มันก็ต้องเขียนตั้งแต่วัยเด็กอีก แน่นอนว่าคนเขียนมันไม่อยากทำแบบนั้นล่ะมั้ง สุดท้ายก็เลยใช้เหตุผลแบบนี้แทน

ส่วนนางเอกเป็นสกายเอลฟ์ (เอลฟ์ที่มีผมข้างหูรูปร่างคล้ายปีก) ที่เกลียดออร์คมาก เป็นผู้นำกลุ่มอัศวินแห่งหนึ่งของเมือง เธอต้องรับตัวพระเอกมาอยู่ในกลุ่มอัศวินของตัวเองโดยไม่เต็มใจ เพราะเกิดเรื่องขึ้นในคุก เธอจึงวางแผนจะกลั่นแกล้ง หาเหตุให้ตัวเองสามารถยกขึ้นมาอ้าง เพื่อขับไล่ออร์คที่ตัวเองเกลียดออกไปให้ได้ แต่ระหว่างนั้น ก็ดันมีปัญหาเกี่ยวกับใบ5แฉกระบาดขึ้นในเมืองซะก่อน แถมผู้มีความรู้เกี่ยวกับหญ้าวิเศษ(ฮา)ก็ดันมีแค่พระเอกคนเดียว เพราะความรู้จากชาติก่อนของเขานั่นแหละ แล้วระหว่างที่สืบหาต้นต่อของเจ้าหญ้าตัวปัญหานี่ไป เธอก็เริ่มเข้าใจในตัวตนของพระเอกมากขึ้น ว่าออร์คแบบนี้ก็มีด้วย

ซึ่งการเดินเรื่องจะใช้การพูดถึงปัจจุบัน(โลกแฟนตาซี) สลับกับชาติก่อน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชาติก่อนที่พระเอกเคยผิดพลาดมาก่อน จะถูกรีรันขึ้นใหม่ในโลกแฟนตาซีนี้ (เช่นในชาติก่อนพระเอกเคยช่วยเด็กสาวตัวน้อยสร้างบ้านหมาริมแม่น้ำ ในชาตินี้ พระเอกก็มาช่วยเด็กสาวตัวน้อยสร้างรังนกที่ชายป่าใกล้ๆเมือง.........คือพยายามยกตัวอย่างที่มันสปอยน้อยที่สุดแล้วอะนะ จริงๆเรื่องใหญ่โตกว่านี้ก็มีแหละ) คล้ายกับว่า พระเจ้าต้องการให้พระเอกแก้ตัว ถึงความผิดพลาดในชาติก่อนของตัวเอง หรือไม่ก็ พระเจ้าต้องการจะให้พระเอกลิ้มรสชาติของความผิดหวังเป็นครั้งที่2ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ อยากรู้ต้องอ่านเอง 555+

ทางด้านคาแรคเตอร์ พระเอกในชาติก่อนเป็นยากูซ่าตัวพ่อที่เก่งกาจเรื่องต่อยตี ใครหันอาวุธเข้าใส่เป็นต้องแหลก แต่ก็ยึดมั่นในคุณธรรม ไม่ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ เรียกว่ามีความเป็นลูกผู้ชายสูงทีเดียว ในชาตินี้ พอได้รับร่างกายของออร์ค (ซึ่งถ้าดูภาพประกอบ ออร์คมันดูหล่อแบบดิบๆผิดกับเรื่องอื่นที่ต้องดูน่าเกลียดวะครับ) ระดับความสามารถในการต่อยตีก็เลยสูงขึ้นอีก แต่ก็ไม่มีสกิลพระเอกนะ โดยซัดซะแผลเต็มตัว ลงไปนอนกองกับพื้นบ่อยครั้งอยู่

ส่วนนางเอก แม้จะเปิดเรื่องแบบค่อนข้างนางมารร้าย (ก็นางเกลียดออร์คอะนะ) แต่หลังจากเริ่มเปิดใจยอมรับพระเอก เราก็จะเห็นบุคลิคของเธอมากขึ้น ว่าเป็นคนรักพวกพ้อง มีความรับผิดชอบสูง รู้จักเอาใจใส่คนอื่น เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสมกับเป็นหัวหน้ากลุ่มอัศวินเลยทีเดียว

ส่วนข้อเสีย เอาแบบที่เห็นเด่นชัดก็คงเป็นเรื่องที่เปิดตัวตัวละครที่เดียวเยอะมากเลยละมั้ง เริ่มเรื่องได้ไม่ทันไร ตัวละครมีชื่อเข้าฉากเกิน 10 ตัวแล้วอะ เป็นปัญหาด้านการจำชื่อตัวละครพอสมควรเลย

คือปกติ ในกรณีที่ตัวละครเยอะ นักเขียนบางคนจะแบ่งลำดับความสำคัญอะนะ ตัวที่มีความจำเป็นในฉากนั้นๆเลย ก็จะมาพร้อมชื่อเสียงเรียงนาม ส่วนตัวที่จะมีบทในฉากต่อๆไป ฉากนี้มาเป็นแค่ตัวประกอบเฉยๆ ก็จะยกยอดเอาไว้แนะนำตัวในฉากต่อไป ซึ่งมันจะทำให้คนอ่านจำตัวละครได้ง่ายขึ้นกว่าแบบนี้อะนะ

แต่โดยรวมแล้วก็ยังดีในระดับหนึ่งอยู่ เรียกว่าแม้จะออกสตาร์ทเหมือนนิยายโคลนเต็มขั้น แต่การเดินเรื่องกลับฉีกแนวออกไปจากแนวเดิมๆได้ดีทีเดียวครับ
ความน่าสนใจ : 4/5

Isekai Maou to Shoukan Shoujo no Dorei Majutsu / จอมมารต่างโลกกับบริวารสาวนักอัญเชิญ

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 7 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ภายใน MMORPG ที่มีชื่อว่า Cross Reverie นั้นซาคาโมโตะ ทาคุมะ เป็นผู้ทรงพลังแข็งแกร่งเหนือชั้นชนิดที่เพลเยอร์คนอื่นๆ ต่างพากันเรียกว่า 'จอมมาร'

แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกอัญเชิญไปสู่โลกต่างมิติโดยอยู่ในร่างที่ใช้ภายในเกม ที่นั่นเขาได้พบกับสาวน้อย 2 คนซึ่งต่างก็ยืนกรานว่า 'ฉันนี่แหละ คือ ผู้อัญเชิญ'

พวกเธอร่ายเวทเปลี่ยนอสูรอัญเชิญให้กลายเป็นทาสใส่ทาคุมะทว่าพลังพิเศษเฉพาะตัว สะท้อนเวท ก็ทำงานขึ้น คนที่กลายเป็นทาสกลับกลายเป็นเหล่าสาวน้อย จึงทำให้ทาคุมะรู้สึกปั่นป่วน

เขาเป็นจอมขมังเวทสุดแกร่งก็จริง แต่ไร้ซึ่งความสามารถในการสื่อสารโดยสิ้นเชิง คำแรกที่พูดออกมาหลังจากกลุ้มใจก็มาจากบทบาทจอมมารที่เขาใช้ภายในเกม 'ฉันสุดยอด งั้นเรอะ แน่นอนอยู่แล้ว นามของข้าคือเดียโบล ผู้เป็นที่เกรงกลัวในฐานะ จอมมารนะ'

เรื่องเล่าขานแห่งการผจญที่ไม่หยุดยั้งด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของจอมมาร (ตามบท) ผู้ซึ่งจะทำให้โลกสะท้านสะเทือนในไม่ช้า เปิดฉากขึ้นแล้ว
ความน่าสนใจ : แนวหลุดไปต่างโลกอีกแล้ว แต่คราวนี้ถ้าหลุดไปต่างโลกเฉยๆมันดูธรรมดาเกินไป เลยเอาเป็น ให้ตัวละครในเกมหลุดไปต่างโลกก็แล้วกัน 555+ อารมณ์เหมือนเราเล่นเกม PC Online แนว MMORPG อยู่ ย่อมต้องมีตัวละครของเราในเกม แล้วทีนี้ไอ้ตัวละครของเราในเกมนี่แหละที่หลุดไปต่างโลก แล้วจิตสำนึกของเราดันไปอยู่กับตัวละครในเกมที่หลุดไปต่างโลกด้วย ประมาณนี้แหละ

และก็แน่นอน ตามสไตล์นิยายแนวนี้ พระเอกที่ตัวละครในเกมของเขาเลเวลตัน ของครบ แถมยังจุติมาหลายรอบจนเท้ามีแสงแล้วมีแสงอีก ขึ้นแท่นเพลเยอร์สุดแกร่งของเซิฟเวอร์ เมื่อตัวละครระดับนี้หลุดมาต่างโลก แถมยังพ่วงด้วยจิตใจของผู้เล่น สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเดาได้

แน่นอน ตามคอนเซ็ปนิยายแนวนี้ ตัวเอกผู้เป็นเทพทรูสุดแกร่ง มีสาวๆรายล้อม ตัวละครที่โผล่มาล้วนเป็นสาวๆ ส่วนไอ้ตัวผู้ทั้งหลาย ถ้าไม่ใช่ตัวประกอบก็เป็นตัวร้าย และหากตัวร้ายเป็นสาวๆ เดาก่อนเลยว่า อนาคตต้องย้ายข้าง 555+ การเดินเรื่องล้วนโคจรรอบตัวเอก ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าทางมันไปซะหมด ไร้อุปสรรค (เลเวลเฉลี่ยของผู้คนในโลกนี้อยู่แถวๆ10-20 ถ้าเลเวลสัก50ก็จัดว่าโคตรเก่งแล้ว แต่พระเอกมันเลเวล150 แถมยังเป็น 150 ที่แม้แต่ในหมู่ตัวละครเลเวลตัน ก็ติดท็อปของเซิฟเวอร์)

ขนาดกองทัพบอส(พระเอกมันพูดเองว่ามอนสเตอร์ระดับนี้ ปกติแล้วน่าจะเป็นระดับบอส) ยกพวกมา 100 ตัว พระเอกปล่อยสกิลตูมเดียว หายไปเกือบครึ่ง แล้วแบบนี้ยังจะเหลืออะไรให้เป็นอุปสรรคของมันอีกล่ะ


ดังนั้นการเดินเรื่องคงไม่ต้องพูดถึงมั้ง แนวนี้มันก็รู้ๆกันอยู่ นอกจากในเรื่องย่อข้างบนก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ขืนลงรายละเอียดมากเกินไป จะกลายเป็นสปอยซะเปล่าๆ

มาที่คาแรคเตอร์ดีกว่า พระเอกของเรา แม้ภายนอกจะเป็นตัวละคร(จากเกม)สุดแกร่ง ไอเทมเทพๆครบครั้น แถมยังหล่อเหลา แต่ภายในเป็นเด็กติดเกมธรรมดา ที่เล่นเกมมาตลอดจนไม่ชินกับการพูดคุยกับคนอื่น ทำให้จำเป็นต้องสวมบทบาทเป็นจอมมารตามความเคยชิน ถึงจะคุยกับคนอื่นได้ (แสดงว่าชอบเล่นเกม RPG เป็นสาย Role Play อินเต็มขั้นเลยสินะ) พอมาโลกนี้ แล้วดันไปแสดงตัวเป็นจอมมารตามที่คุ้นเคย ประกอบกับเลเวลที่สูงลิ่ว คนทั่วไปเลยดูเหมือนจะเข้าใจว่าหมอนี่เป็นจอมมารไปจริงๆซะแล้ว

นางเอก2หน่อ หนึ่งคือสาวเอลฟ์จากตระกูลใหญ่ผู้สูงศักดิ์แม้แต่ในหมู่เอลฟ์ด้วยกัน แถมยังนมโตแบบที่ชอบโผล่มาในเกมผู้ใหญ่ พร้อมคาแรคเตอร์มาตรฐาน นมใหญ่ไร้สมอง เป็นนักธนูเอลฟ์ผู้เก่งกาจ แต่ดันอยากเดินในเส้นทางสายจอมเวท ค่อนข้างบ๊องๆ ขี้เหงา แถมยังขี้กลัว

อีกหนึ่งคือสาวน้อยมนุษย์สัตว์ที่เก่งกาจได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คน แน่นอนว่าเผ่านี้ตามเกม เผ่านี้มักจะเป็นสายบู้ แต่เธอก็ดันอยากเดินในเส้นทางของจอมเวทเหมือนกัน หน้าอกราบและเรียบ เคร่งครึม หน้าตาย เสียงโมโนโทน คุณสมบัติคู่ควรกับคาแรคเตอร์คูลเดเระ

แล้วนางเอกทั้ง2ที่เป็นหญิงระดับไฮโซต้องมาเป็นทาสของพระเอก ผู้(ถูกเข้าใจว่า)เป็นจอมมาร นั่นเอง

แค่นี้แหละ หมดแล้ว เป็นนิยายโคลนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตลาดจนไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย
ความน่าสนใจ : 3/5

13/4/60

Zero kara Hajimeru Mahou no Sho / ปฐมมนตรา ตำราพลิกโลก

สำนักพิมพ์ : Dexpress
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 8 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ปฏิทินโบสถ์ปี 526 โลกมี "วิชาเวท" แต่ยังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า "เวทมนตร์" และผู้คนไล่ล่า "แม่มด" ในฐานะสิ่งชั่วร้าย

ทหารรับจ้างครึ่งคนครึ่งสัตว์นายหนึ่งซึ่งโดนผู้คนรังเกียจเพราะเป็น "ผู้ตกสู่ห้วงสัตว์" เขาจึงเฝ้าฝันว่าอยากเป็นมนุษย์ และแล้วโชคชะตาก็นำพาให้เขามาพบกับ "ซีโร่" แม่มดผู้กำลังตามหา "ตำราของซีโร่" ตำราเวทมนตร์ซึ่งมีพลังทำลายโลกที่โดนใครบางคนขโมยไป!? ทหารรับจ้างจึงยอมเป็นผู้คุ้มกันแม่มดที่สุดแสนเกลียด โดยมีเงื่อนไขว่าจะทำให้เขากลับร่างเป็นมนุษย์

นิยายแนวแฟนตาซีที่การันตีด้วย "รางวัลชนะเลิศ" จากการประกวดนิยายเดงเกคิครั้งที่20มาแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : จอมเวทชิมะคาเสะ เป็นนิยายแนวแฟนตาซีที่การันตีด้วย "รางวัลชนะเลิศ" เชียวนะเออ.............ส่วนจะดีงามสมกับรางวัลรึเปล่าก็ตัดสินใจกันเอานะ

ทางด้านพล็อตเรื่องนั้น เรื่องย่อเขียนไว้ดีพอสมควรแล้ว ดังนั้นจะขอเพิ่มเติมแค่บางส่วนเท่านั้นนะครับ ว่าเรื่องนี้กล่าวถึงยุคสมัยที่ยังมีการล่าแม่มดกันอยู่ ดังนั้นเทคโนโลยีต่างๆก็ขอให้จินตนาการถึงยุคสมัยนั้นนะ

ส่วนเรื่องเวทมนต์นั้น ท้องเรื่องจะเป็นช่วงรอยต่อระหว่าง "วิชาเวท" แต่ผมขอเรียกเอาเองว่าอาคมละกัน กับเวทมนต์ ซึ่งความแตกต่างของมันคือ การใช้อาคมนั้น จะต้องประกอบพิธีกรรมกันนานมาก มีระเบียบแบบแผน หากถูกขัดจังหวะ พิธีล่ม อาคมก็จะไม่แสดงผล ทำให้เหล่าแม่มดในเรื่องนั้น ไม่เป็นภัยคุกคามต่อผู้คน หนำซ้ำยังถูกโบสถ์ไล่ล่าได้สบายอีกต่างหาก

ส่วนเวทมนต์นั้น คือเวทมนต์แบบที่พวกเรารู้จักกันดีตามนิยายแฟนตาซีทั่วไป เพียงแค่ร่ายเวทไม่กี่ประโยคเวทมนต์ก็แสดงผล


ตามเนื้อเรื่อง แม่มดจะใช้เป็นแค่อาคม จนกระทั่งนางเอก ผู้เรียกตัวเองว่า ซีโร่ (หมายเลข0) คิดค้นวิธีใช้เวทมนต์ได้ แล้วเขียนเป็นหนังสือ และต่อมา หนังสือเล่มนั้นก็ถูกขโมยไปนั่นแหละครับ

จูซังบัง (หมายเลข13) ที่ร่วมค้นคว้าเวทมนต์ด้วยกันกับเธอ จึงออกตามหาหนังสือเล่มนั้น ก่อนที่โลกจะถูกทำลาย (หมายถึง หากแม่มดใช้เวทมนต์ได้ ระดับของภัยคุกคามจะสูงขึ้นทันที แม่มดที่เป็นฝ่ายถูกไล่ล่าจากโบสถ์ต้องตอบโต้แน่ สงครามจะเกิดขึ้น) แต่เวลาผ่านไป 10 ปี ยังไม่มีข่าวคราวของจูซังบัง ซีโร่เลยตัดสินใจออกเดินทางบ้าง แล้วระหว่างทางก็มาเจอพระเอกเข้านี่แหละ

ซึ่งพระเอกของเรา เป็น "ผู้ตกสู่ห้วงสัตว์" เอาง่ายๆก็คือ เป็นมนุษย์สัตว์ตามที่เคยเห็นกันในนิยายแฟนตาซีละนะ อารมณ์แบบมีสเตตัสสูงลิ่ว เก่งกาจเรื่องการต่อสู้ แต่ตามเรื่องนี้ มนุษย์สัตว์เกิดมาจากมนุษย์ ซึ่งทางโบสถ์อธิบายไว้ว่า เป็นเพราะบาปหนา ถูกผู้คนรังเกียจและหวาดกลัว แต่หลังจากเขาเจอกับนางเอก นางเอกอธิบายว่า เป็นคำสาปที่เกิดจากผลสะท้อนจากอาคมต่างหาก ซึ่งเธอก็สัญญาว่า หากเขาช่วยเธอ เธอจะแก้คำสาปให้ พระเอกก็จะมีหน้าตาเป็นมนุษย์เหมือนคนอื่น

ทางด้านคาแรคเตอร์ พระเอกของเราเป็นทหารรับจ้าง ผู้มีสัญชาติญาณค่อนข้างเชื่อถือได้ ผ่านสนามรบมามาก เลยมีประสบการณ์ในการต่อสู้อยู่ระดับหนึ่ง แต่จริงๆแล้วเป็นคนจิตใจดี ฝันอยากจะมีครอบครัวธรรมดาๆ แต่เพราะเป็นมนุษย์สัตว์เลยไม่มีทางเลือก

ส่วนนางเอกเป็นชิมาคาเสะ...เอ๊ย เป็นแม่มดอัจฉริยะ ผู้เขียนหนังสือตัวปัญหานั่น ด้วยความฝันอยากให้ผู้คน ทั้งคนธรรมดาและแม่มดใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข แต่หนังสือกลับถูกขโมย และเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เลยต้องแสดงความรับผิดชอบเก็บกวาดเรื่องที่ตัวเองก่อ นอกจากนั้น เธอยังเป็นเด็กสาวอ่อนต่อโลก พูดจาขวานผ่าซากเล็กน้อย แถมยังขี้เหงาด้วย(มั้ง)

โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับเรื่องที่โดนเจิม(ด้วยรางวัล 555+) จัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว อย่างน้อยๆพล็อตก็ไม่ตลาด การเดินเรื่องก็ไม่ตลาด แถมยังเขียนเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกอยากติดตาม ไม่เกิดความรู้สึกอยากวางหนังสือลงกลางคันอีกต่างหาก หนำซ้ำ ราคาก็ไม่แพงมาก เพราะฉะนั้นความน่าสนใจระดับนี้จึงน่าจะกำลังพอดีครับ
ความน่าสนใจ : 5/5

12/4/60

Dai Eiyuu ga Mushoku de Nani ga Warui / ผู้กล้าบ่มิไก๊ในกริมการ์แดนมายา

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Fantasy Comedy
จำนวนเล่ม : 3 เล่มจบ
เรื่องย่อ : "ชั้นคือยอดผู้กล้าคิซารากิ"

หลังลืมตาขึ้นด้วยคำพูดว่า "ตื่นเถอะ" สิ่งที่ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าก็คือโลกที่ไม่รู้จัก เพื่อที่จะอยู่รอดในโลกที่ "คล้ายกับเกม" อย่างกริมการ์แล้ว พวกเราต้องต่อสู้เท่านั้น

แต่ชั้นไม่ไปตามทางที่มีคนกำหนดให้หรอก ชั้นจะเลือกทางของชั้นเอง

หลังได้ผู้ติดตามเป็นนักบวชอิจิกะกับจอมเวทโมโมฮินะแล้ว ในระหว่างทางที่พวกเรากำลังจะเปิดฉากด้วยการฆ่าออร์ค นักผจญภัยใกล้ตายมอบดาบมนตรา "โซลคอลเลคเตอร์" ไว้ให้ชั้น หากมีดาบนี้ก็ไม่ต้องสนใจเรื่องอาชีพอีกต่อไป ชั้นจะเป็นผู้กล้าทั้งๆที่ยังไร้อาชีพให้ดู

ตำนานวีรชนบทใหม่จากอาโอะ จูมอนจิ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องใหม่จากกริมการ์ซีรีย์ครับ จริงๆถึงไม่ต้องบอก แต่มองชื่อเรื่องก็น่าจะรู้แล้วมั้ง 555+ แต่เรื่องนี้คนเขียนยืนยันว่าไม่มีจุดเชื่อมโยงกับ Hai to Gensou no Grimgar / ขี้เถ้าในกริมการ์แดนมายา แต่อย่างใดนะครับ ไม่จำเป็นต้องอ่านเรื่องนึงก่อน ถึงจะอ่านอีกเรื่องรู้เรื่อง ตัวละครหลักก็ไม่ได้รู้จักกัน เรียกว่า นอกจากกระเทยตัวล่ำบึกที่ดูแลทหารอาสา กับโลลิที่เปิดร้านรับฝากของ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวประกอบมีชื่อ ตัวอื่นใน "ขี้เถ้าฯ" ไม่ได้มาโผล่ใน "ผู้กล้าฯ" เลยครับ

แต่เรื่องนี้จะเป็นคนละธีมกับขี้เถ้าฯนะครับ เหมือนคนเขียนใช้เวทีเดียวกันคือโลกกริมการ์ แต่เปลี่ยนแนวจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย พูดง่ายๆว่า เรื่องนี้เป็นแนวตลาดทั่วๆไป หรือที่บางคนชอบเรียกว่าแนวโคลนนั่นเอง

พระเอกถูกดึงมาต่างโลก มีสาวๆรายล้อม ออกจากเมืองครั้งแรกก็ดิ่งไปฆ่าออร์ค 2 ตัวรวด ทั้งๆที่ยังไม่มีอาชีพ (ตัวเอกฝั่งขี้เถ้าฯ แค่ก็อบลินสักตัวยังมีตาย) ระหว่างทางได้ดาบโคตรโกงมาอีกต่างหาก คือดาบมันมีพลังพิเศษฟันศัตรูทีเดียวตาย หลังจากนั้นพระเอกก็เลยออกล่าได้แบบโคตรชิว ไม่ว่าศัตรูจะเป็นโคตรมอนสเตอร์มาจากไหนก็ฟันฉับ เงินทองไหลมาเทมา หาเงินวันแรกวันเดียว ได้มาครึ่งร้อยเหรียญทองเลยมั้ง ถ้าจำไม่ผิด

เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เข้าทางพระเอกทั้งนั้น ราบรื่นไร้อุปสรรคตามสไตล์นิยายโคลน


ทางด้านคาแรคเตอร์ พระเอกเป็นซุปเปอร์โนวิท(ไม่มีอาชีพ) โลกสวยที่คิดอะไรเข้าข้างตัวเอง ประหนึ่งว่าโลกหมุนรอบตัวฉัน แต่ถึงอย่างงั้นก็มีสกิลพระเอก ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าทางมันซะหมด แถมยังเนื้อหอมแบบไร้เหตุผล

นางเอกเป็นสาวสายพละซึนเดเระ แต่ดันปอดแหก ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เลยโดนพระเอกบังคับให้เปลี่ยนอาชีพเป็นนักบวชซะงั้น พรีสโหดกระโดดตบสินะ 555+

นางรองเป็นตัวละครสายเอ๋อ ที่เอ๋อซะจนสงสัยว่าสมองหยุดพัฒนาไปตั้งแต่ 3 ขวบรึเปล่า แต่ดันมีความสามารถในการต่อยตีสูงลิ่ว ถึงอย่างงั้นพระเอกดันให้ตัวละครสาย Str+Agi ไปเปลี่ยนอาชีพเป็นนักเวทซะงั้น ซึ่งเธอผู้ซึ่งไม่รู้ในหัวคิดอะไรบ้างรึเปล่าก็ทำตามแต่โดยดี นักสู้เวทมนต์เลยถือกำเนิดขึ้นมาแบบงงๆ ต่อยมอนสเตอร์ไป ปากก็ร่ายเวทไป กลายเป็นตัวละครผู้พึ่งพาได้มากที่สุดในปาร์ตี้ ทั้งๆที่บุคลิคดูปัญญาอ่อนมากเลยแท้ๆ

นางรองอีกคน เป็นเอลฟ์ แต่ดันอ้วนจ่ำม่ำ...เอ่อ อวบระยะสุดท้าย (ถึงอย่างงั้น ภาพประกอบแม่งวาดซะเพรียวเลย อย่างน้อยๆก็วาดให้มันเจ้าเนื้อหน่อยไม่ได้หราาา) (อดีต)นักดาบอัจฉริยะของเผ่า แต่เพราะรูปร่างของตัวเอง ทำให้เอลฟ์ร่วมเผ่าซึ่งเป็นเผ่ารักสวยรักงามดูถูกจนกลายเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเองไปอีก สุดท้ายเลยเดินตามพระเอกต๋อยๆอีกคน

เฮ้อ ส่วนการเดินเรื่องก็อย่างที่บอกไปแล้ว แนวโคลนมันก็มีแค่นี้แหละ ดังนั้นเลยไม่มีจุดไหนที่ต้องพูดเป็นพิเศษครับ

เรียกว่าไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโดนตัดจบที่ 3 เล่มอะนะ ในขณะที่ ขี้เถ้าฯ นั้นได้ไปต่อยาวๆ
ความน่าสนใจ : 2/5

11/4/60

Samayou Shinki no Duelist / ผู้พิทักษ์ตกอับกับยัยเทพธิดาหลงทาง

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 2 เล่มจบ
เรื่องย่อ : โลกถูกความว่างเปล่ากลืนกินจนหมดสิ้น หลงเหลือเพียงดันเจี้ยนกับเมืองๆหนึ่ง สิ่งที่รอมนุษยชาติอยู่คือความรุ่งโรจน์หลังการต่อสู้ ความร่ำรวยเมื่อการผจญภัยเสร็จสิ้น หรือไม่ก็ความตาย

ยูคิ นักสำรวจได้เก็บเด็กสาวคนหนึ่งมาจาก "ประตูชัย" หรือ แมกนา พอร์ตา ดันเจี้ยนขนาดใหญ่ที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งความปรารถนา เสบียงอาหาร ชะตาชีวิต ตลอดจนปาฏิหาริย์ของผู้คนหลับใหลอยู่

"ที่นี่คือโซลิทูส เมืองของเรา จงต้อนรับการกลับมาของเจ้าหญิงแห่งทวยเทพเถิด"

ทีน่า เด็กสาวที่ถูกเก็บมาได้ และอ้างว่าตัวเองคือเทพธิดาผู้ปกปักษ์รักษาเมืองได้ขอความร่วมมือจากยูคิ เพื่อนำพลังที่สูญหายไปกลับคือมา

"ไม่มีสิ่งตอบแทนให้ ดังนั้นเราจะขอจ่ายด้วยตัวของเราเอง"

นี่คือนิยายแฟนตาซีผจญภัยในดันเจี้ยนพร้อมอาวุธครบมือในการ "ปกป้องโลก" ระหว่างนักสำรวจผู้หันหลังให้กับโชคชะตา และเทพธิดาที่ต่อสู้เต็มกำลังเพื่อให้ได้พลังแห่งปาฏิหาริย์กลับคืนมา
ความเห็นส่วนตัว : มีใครอ่านเรื่องย่อแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสนุกบ้างครับ

มีใครอ่านเรื่องย่อแล้วรู้สึกว่าสัมผัสได้แต่ความตลาด แต่เนื้อหาดูไม่ค่อยรู้เรื่องบ้างครับ

อืมๆ ไม่ใช่คุณคนเดียวที่คิดแบบนั้นครับ 555+

เรื่องนี้เป็นเรื่องแฟนตาซีแนวดันเจี้ยนที่กำลังนิยมอยู่ในตอนนี้ โดยใช้เวทีเป็นโลกที่ถูกความว่างเปล่ากลืนกิน เหลืออยู่แค่เมืองๆเดียวที่รอดมาได้ เพราะเทพธิดาทั้ง 5 ช่วยกันใช้พลังปกป้องเอาไว้ และใต้เมืองนั้นก็มีดันเจี้ยนอยู่ ว่ากันว่า หากไปถึงชั้นสุดท้ายของดันเจี้ยนได้ จะเจอประตูไปสู่โลกใหม่ ผู้คนทั้งหลายเลยพยายามช่วยเหลือ(?)กัน เพื่อไปให้ถึงประตูนั้น

ย่อหน้าข้างบนคงช่วยได้เยอะเลยสินะ อย่างน้อยๆก็ทำให้รู้เรื่องมากกว่าตรงเรื่องย่อละมั้ง แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า เรื่องย่อนั่น ผมเขียนตามปกหลังเป๊ะเลยนะครับ ถ้าจะโวย ไปโวยสำนักพิมพ์นะ

เอาล่ะ โครงเรื่องก็ตามนั้น คาแรคเตอร์ตัวละครและการเดินเรื่องก็ค่อนข้างเดิมๆ ยิ่งถ้าผู้อ่านคนไหนชั่วโมงบินสูงหน่อย คาแรคเตอร์ของพระเอกมันบอกใบ้อะไรๆไว้เยอะเลยนะ ยิ่งชื่อเรื่องมันก็สปอยอยู่แล้วด้วย (มันสปอยมาตั้งแต่ญี่ปุ่นแล้วล่ะ ถึงชื่อไทยมันจะแลดูซีรีย์เกาหลีไปหน่อย แต่ก็ยังคงความสปอยไว้ล่ะนะ 555+) คงเดาไคล์แม็กซ์ได้ไม่ยาก

หืม คาแรคเตอร์พระเอกเป็นยังไงน่ะเหรอ คือพระเอกเป็นนักสำรวจระดับ9 จากทั้งหมด 10 ระดับ (เก่งสุดคือระดับ1) แต่เขามีอาชีพเป็นพ่อค้า (และอาจารย์พิเศษคอยสอนเด็กที่อยากเป็นนักสำรวจ) ควบคู่ไปด้วย ใช้ชีวิตแบบพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้ดูเหมือนเป็นคนใจเย็น มองโลกตามความเป็นจริง จนดูเหมือนไม่ค่อยศรัทธาในโบสถ์และเหล่าเทพธิดาสักเท่าไหร่ ส่งผลให้มีเหล่าผู้ศรัทธาเหม็นหน้าอยู่เยอะ ยามสอนเด็กๆ ก็จะสอนแบบเน้นความเป็นจริง เน้นให้รักษาชีวิตตัวเอง มากกว่าสอนเรื่องความศรัทธา และเพราะว่าเป็นพ่อค้า หลายต่อหลายครั้งเลยเอาเรื่องผลได้ผลเสียมาคำนวน จนดูเหมือนเย็นชา ซึ่งคนที่จะเป็นแบบนี้ได้ อย่างน้อยๆชีวิตต้องผ่านอะไรมาเยอะเลยล่ะ ส่วนจะผ่านอะไรมานั้น หลายคนคงเดาได้อยู่แล้วล่ะ

ส่วนคาแรคเตอร์นางเอก ถ้าใช้คำตามในเรื่องก็คือตกลงมา แล้วพระเอกก็เก็บได้ ก็เลยเอามาเลี้ยง(?)ที่บ้าน เป็นสาวโลลิที่ป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นเทพธิดาผู้ปกป้องเมือง พร้อมวางท่าซะเต็มประดา คาแรคเตอร์แบบที่หลับตาก็เห็นภาพเลยใช่มั้ยล่ะ


นางรองเป็นตัวละครที่...ถ้าเอาตามบทบรรยายคือเป็นเด็กวัยรุ่นที่โตเกินวัย ทั้งส่วนสูงและขนาดหน้าอก (แต่ภาพประกอบวาดมาแลดูโลลิชอบกล) และเป็นตัวเดินเรื่องหลักในเล่มแรก เพราะนางมีความแค้นบางอย่างอยู่ และต้องการจะแก้แค้นด้วย

การเดินเรื่องก็ตามมาตรฐานแนวดันเจี้ยน หลังจากช่วงต้นแนะนำตัวละครกันพอหอมปากหอมคอ ก็หาเหตุให้ตัวเอกลงดันเจี้ยน (ในเรื่องนี้คือนางรองต้องการแก้แค้น แล้วดึงดันจะลงดันเจี้ยนชั้นลึกเกินความสามารถตัวเอง) แล้วตัวเอกก็ไปเจอบอสประจำเล่ม เข้าสู่ฉากโชว์เทพ ปลดปล่อยสกิลพระเอก เป็นอันจบเล่มแรก 555+

แต่เรื่องนี้มันจะแย่กว่าเรื่องอื่นนิดหน่อย ตรงที่ใช้เวทีสไตล์สร้างโลกใหม่ แต่ดันไม่อธิบายรายละเอียดของโลกที่ตัวเองใช้เท่าที่ควร (นิยายจะมีเวทีอยู่2แนวใหญ่ๆน่ะนะ คือใช้โลกเรา ในยุคปัจจุบันนี่แหละ กับโลกในจินตนาการของคนเขียน ซึ่งผมเรียกเอาเองว่าคนเขียนมันสร้างโลกใหม่) ทำให้อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ขนาดรายละเอียดหลักๆอย่างเทพธิดา และโบสถ์ ยังแทบไม่พูดถึงเลย อ่านๆไป ถึงจะรู้ว่า อ้าว ตกลงคืออย่างงี้เหรอ

ฉากในดันเจี้ยนที่ควรจะเป็นเมนหลักก็ไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่ แปปๆถึงชั้น10 แปปๆไปชั้น30 แปปๆชั้น60แล้ว ดันเจี้ยนมันมีกี่100ชั้นวะเนี่ย 555+ หรือแต่ละชั้นมันแคบฟ่ะ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงไปได้ขนาดนั้นเลยเรอะ

เสร็จแล้ว พอผ่านไคล์แม็กซ์ผ่านอะไรเสร็จ ตอนท้ายคนเขียนถึงจะเปิดโครงเรื่องที่แท้จริง ว่าจริงๆแล้วเรื่องราวจะเป็นยังไง (ซึ่งขอไม่สปอย) แต่สเกลค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ถ้าเขียนจริงๆคงได้หลายเล่มเลยล่ะ แต่ก็น้า สกิลในการเขียนน่าจะไม่สูงเท่าไหร่ เลยถูกตัดจบอยู่ที่เล่ม 2 นี่แหละครับ

ขอเดาเลยว่าโดนตัดจบ เพราะสเกลของเรื่องที่พูดถึงตอนท้ายเล่ม1ค่อนข้างใหญ่ มีตัวละครที่น่าจะเป็นลาสบอสโผล่มานิดนึง อารมณ์ว่าวางแผนอะไรกันไว้แล้ว แต่ดันออกเล่ม 2 มาเมื่อประมาณ4-5ปีก่อนแล้วหายต๋อมไปเลยอะน้า ไม่น่ารอดแล้วล่ะ

ด้วยประการละฉะนี้ เลยเป็นเรื่องที่ไม่อยากแนะนำสักเท่าไหร่เลยครับ
ความน่าสนใจ : 1/5