19/9/59

Angel Festa! / แองเจิล เฟสต้า นางฟ้าไอดอล

สำนักพิมพ์ : Dexpress
แนวเรื่อง : Comedy, School Life
จำนวนเล่ม : 3 เล่มจบ
เรื่องย่อ : นี่คือเรื่องราวของเหล่าเด็กสาว กับเส้นทางสู่ “แองเจิลปาร์ตี้” เวทีประชันไอดอลแสนเร่าร้อน!

“ซากุระงิ ริคุ” อดีตทหารรับจ้างหนุ่มผู้ไม่เคยได้ข้องเกี่ยวกับชีวิตในประเทศสงบสุข ทักษะติดตัวมีเพียงวางแผนออกรบและการฝึกฝนร่างกายสุดโหดที่ห่างไกลจากความเป็นไอดอล เขาจับพลัดจับผลูกลายเป็นโค้ชประจำ "ภาควิชาฝึกหัดไอดอล" ของโรงเรียนสตรีเซย์กะได!? แถมยังต้องรับมือกับ "มินาเสะ มินาโมะ" เด็กสาวผู้มีพรสวรรค์แต่กลับไม่ยอมเปิดใจกับแองเจิ้ลปาร์ตี้

เหตุผลที่แท้จริงของมินาโมะคืออะไร... แล้วเรื่องราวของ "เขา" และ "พวกเธอ" จะลงเอยเช่นไร ความพยายามครั้งใหม่ของเหล่าไอดอลเบิกม่านขึ้นแล้ว!
ความเห็นส่วนตัว : ถ้าหาก IM@S (Idol Master) รวมกับ LL (Love Live) จะเป็นยังไงน้า ช่วงที่ LL ออกซิงเกิ้ลที่2 ผมเคยคิดแบบนั้นจริงๆนะ แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่มีคนสนใจ LL สักเท่าไหร่ก็เถอะ

ใช่แล้วครับ นิยายเรื่องนี้ก็คือการรวมกันของ 2 เรื่องที่ว่าข้างบนน่ะแหละ โดยโครงเรื่องก็มีอยู่ว่า ในช่วงเวลาหลังจากสคูลไอดอลเป็นที่นิยมแล้ว โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเล ก็(เคย)มีสคูลไอดอลอยู่ล่ะ แต่พักหลังมานี้ ไม่รู้เพราะปัญหาการเกิด หรือเพราะปัญหาด้านอื่น(ในเรื่องน่าจะบอกนะ แต่ผมลืมไปแล้ว 555+) ทำให้แผนกสคูลไอดอลของโรงเรียนไม่มีคนนิยม จนใกล้จะเจ๊ง สาวๆที่เหลืออยู่นี้คือฟางเส้นสุดท้าย พวกเธอต้องเข้าร่วมการแข่งขันเลิฟไลฟ์ แล้วคว้ารางวัลมาให้ได้...แม้ว่าในเรื่องจะไม่ได้ใช้คำว่าเลิฟไลฟ์ก็เถอะนะ

ในเมื่อวางเป้าหมายไว้สูงขนาดนี้ การจะปล่อยให้นักเรียนต้องงมกันเอง ฝึกกันเองแบบแก๊ง LL ก็กระไรอยู่ โรงเรียนก็เลยจ้างโปรดิวเซอร์ซังมาช่วยอีกแรงนึง แม้ว่าในเรื่องจะใช้คำว่าโค้ชก็เถอะนะ

พระเอกของเรา อายุ17(ถ้าจำไม่ผิด) โปรดิวเซอร์ซังประจำเรื่อง จะต้องจีบสาวๆสคูลไอดอล...เอ๊ย จะต้องพยายามฝึกฝนสาวๆสคูลไอดอล เพื่อให้ทันลงแข่งเลิฟไลฟ์ให้ได้

เรื่องราวก็ประมาณนี้แหละ ในเล่มแรก น่าจะไปจบแถวๆตอน3ของเลิฟไลฟ์ละมั้ง (ฮา) ก็คือรวบรวมสาวๆมาได้ 3 หน่อ แล้วก็ขึ้นแสดงครั้งแรกในหอประชุมของโรงเรียน 555+ ส่วนการเดินเรื่องจะใช้คอเมดี้ โต้ตอบกันของสาวๆและโปรดิวเซอร์ซัง เล่นมุกตบมุกกันไปบ้างอะไรบ้าง

ทางด้านคาแรคเตอร์นั้น พระเอกไม่มีอะไรให้พูดถึงเท่าไหร่ ในเรื่องย่อพูดไปแล้ว ส่วนสาวๆนั้น ในเล่มแรกจะเป็นสาว 3 ตัวหลักก่อน ตรงจุดนี้นับว่าคนเขียนทำดีทีเดียว ขีดจำกัดของคนส่วนใหญ่เวลาอ่านนิยายแล้วจดจำตัวละครได้จะอยู่ที่ 3-4 คนนี่แหละ การเปิดตัวตัวละครมากเกินกว่านี้ นอกจากจะทำให้แจกบทยาก คนอ่านจะจำยากไปด้วย นอกจากนั้น จำนวน 3 คนก็พอเหมาะสำหรับไอดอลกรุ๊ป กลุ่มเล็กๆพอดี

ยัยนางเอก เป็นเซ็นเตอร์และหัวหน้าวง ตามปกติแล้ว นางเอกของเรื่องสายไอดอลมักจะเป็นพวกไฮเปอร์นิดๆ ทำอะไรแบบไม่ค่อยคิดเท่าไหร่ ดับเครื่องชนเป็นหลัก แต่ก็มีเสน่ห์สูง ในแง่ของการดึงดูดผู้คนให้มารวมกัน เป็นศูนย์รวมจิตใจของเพื่อนๆในวงได้ อะไรประมาณนั้น ซึ่งเรืองนี้ก็มาแนวเดียวกัน เพียงแต่ว่า คนเขียนเพิ่มดราม่าของเธอเข้ามาด้วย คือปกติแล้วเรื่องอื่นยัยนางเอกจะเป็นคนอยากแจ้งเกิดสุดๆ เลยรวบรวมเพื่อนๆเข้าด้วยกันเป็นวง แต่เรื่องนี้ นางเอกจะเคยมีแผลใจกับไอดอลมาก่อน ทำให้แม้จะมีพรสวรรค์สำหรับการเป็นไอดอล แต่เธอกลับไม่ยอมขึ้นเวทีซะนี่ เดือดร้อนให้โปรดิวเซอร์ซังต้องมาช่วยรักษาแผลใจ(ฮา) แล้วเคี่ยวเข็นเธอให้มีใจขึ้นมาให้ได้

2สาวเพื่อนสนิทของนางเอก และเป็นเพื่อนในวงด้วย ก็จะมาตามคอนเซ็ปครับ เมื่อนางเอกเป็นพวกทำอะไรไม่ค่อยคิด เพื่อนๆของเธอก็เลยจะมีคนนึงที่เป็นคนคอยวีน ในขณะที่อีกคนจะคอยโอ๋ อันนี้ก็ไม่มีอะไรผิดอิมเมจสักเท่าไหร่ ดราม่าของทั้งคู่ค่อนข้างน้อย จนเรียกว่าไม่มีก็ได้ หลักๆของเล่มแรกจะไปอยู่ที่ดราม่าของนางเอกมากกว่า

ส่วนสาวๆคนอื่นจะยังไม่มีบทเท่าที่ควรครับ นอกจากยัยโลลิที่โผล่มาให้กำลังใจพระเอก กับยัยเอริ...ไม่ใช่สิ คุณประธานนักเรียนที่ ออกมาโวยวายวงไอดอลตามสูตร เหมือนปักธงแล้วยังไงชอบกล ว่าถ้าประธานนักเรียนมาวีนใส่วงสคูลไอดอลแล้วล่ะก็ เวลาผ่านไป เธอจะกลายเป็นสมาชิกวง 555+

รวมๆแล้ว ถ้าทำเป็นดราม่าซีดี หรืออนิเมะล่ะก็ น่าจะโอเคเลยล่ะครับ ยิ่งช่วงนี้กระแสไอดอลมาแรง คงพอแย่งพื้นที่ตลาดได้ แต่พอเป็นนิยายแล้ว มันมีข้อเสียรุนแรงอยู่นี่สิ นั่นก็คือ นิยายมันไม่มีเสียง ไม่มีภาพ ให้คนอ่านรับรู้ถึงความโมเอะได้โดยง่าย ดังนั้นถ้าคนเขียนถ่ายทอดความโมเอะของสคูลไอดอลผ่านตัวหนังสือไม่ได้ ทุกอย่างก็จบครับ ยิ่งกับฉากร้องเพลง (นิยายแปลด้วยสิ) แค่เนื้อเพลง(ที่แปลเป็นไทยแล้ว) แปะมา มันสัมผัสถึงความเป็นไอดอลได้ยากอยู่นะ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เรื่องนี้ 3 เล่มจบรึเปล่าก็ไม่รู้สิ
ความน่าสนใจ : 4/5

18/9/59

Dowl Masters

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Action Sci-Fi
จำนวนเล่ม : 4 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : [ดอล] นั่นคือชื่อย่อของ [ไททานิคดอล] อาวุธขับเคลื่อนรูปทรงมนุษย์ที่ขยาย [กำลังนึกคิด] ของคนขับให้แปรเปลี่ยนเป็นพลังต่อสู้ออกมา

ดอลมาสเตอร์มือใหม่อย่างซาโอโตเมะ อาโออิ ที่สังกัดหน่วยประจำเมืองเล็กๆบนโลก [ออตอน] พร้อมกับพี่สาวอาคาริต้องเข้าปะทะกับกองกำลังโยโกฮาม่าโพลิส

ช่วงวินาทีที่กำลังจะถูกการโจมตีของศัตรู พลังพิเศษในตัวของอาโออิก็ตื่นขึ้นทำให้เขากลายเป็น [เอ็กเซอร์]

ด้วยเหตุนี้อาโออิจึงถูกย้ายไปประจำหน่วยดอลที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง [โซเฟีย] แทน จึงต้งมุ่งหน้าขึ้นสู่อวกาศ

ที่นั่นเองโชคชะตาก็ได้นำพาเขาไปพบกับเรย์เนะ ดอลมาสเตอร์ผู้แข็งแกร่งที่สุดซึ่งเป็นผู้ขับขี่ [มิสตี้มูน]...

การต่อสู้ของเหล่าหนุ่มสาวโดยมี [โลก] เป็นเดิมพันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้คนเขียนเดียวกับจอมเวทซิสค่อนที่วางแผงที่ญี่ปุ่นมา 20 กว่าเล่มแล้วครับ

เปิดเล่มมา ด้านหน้าจะมีคำอธิบายศัพท์(ที่คนเขียนบัญญัติขึ้นมาเอง)เยอะแยะมากมาย คล้ายๆกับเขาย้ายบทบรรยายจากในเล่มมาไว้ตรงคำอธิบายข้างหน้าแทน แน่นอนว่าผมไม่อ่านครับ เอาไว้ทีหลัง ลองอ่านเรื่องราวดูก่อนเลย ว่าคนเขียนจะสามารถเขียนให้คนอ่านเข้าใจได้รึเปล่า โดยที่ไม่ต้องไปนั่งเปิดหาคำนิยายศัพท์ทั้งหลายที่เขาแต่งขึ้นมา เพราะเราซื้อนิยายมาอ่านอะนะ ไม่ได้อยากอ่านหนังสือเรียน ถ้าต้องอ่านไปเปิดคำอธิบายไป เปิดวิกิไป มันก็ไม่ใช่แล้ว

และนั่น ก็ทำให้รู้สึกว่า จากผลงานชิ้นนี้ ความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวของนาย ดีขึ้นใช่มั้ยเนี่ย 555+ เหมือนเรื่องนี้อ่านแล้วเข้าใจง่าย โดยไม่เยิ่นเย้อเท่าจอมเวทซิสค่อนแฮะ

ในส่วนของเรื่องราวนั้น เปิดเรื่องไม่ค่อยตลาดเท่าไหร่ครับ เวทีของเรื่องค่อนข้างกว้างใหญ่ แต่สาระของเล่มแรกก็ตามในเรื่องย่อข้างบนน่ะแหละ เป็นเรื่องแนวๆกันดั้ม สงครามอวกาศ อะไรประมาณนี้ ซึ่งถ้าให้เล่า สปอยต่อจากเรื่องย่อ มันก็ค่อนข้างตามสูตรมาตรฐานอยู่นะ คือเล่มแรกเป็นเล่มแนะนำตัวละคร ให้คนจำได้ แล้วก็มีศัตรูโผล่มาให้พระเอกได้โชว์เทพช่วงท้ายเล่มเล็กน้อย เป็นอันจบ

และถ้าให้พูด คาแรคเตอร์พระเอกทำให้ผมไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เลยล่ะ พระเอกเป็นซิสค่อนติดพี่สาว วันๆไม่ค่อยทำอะไรเท่าไหร่(เหมือนคนเขียนแจกบทไม่ดี ไม่ค่อยบรรยายในส่วนนี้ เดาเลยว่า หลังจากมาเข้าโรงเรียนสอนขับหุ่นแล้ว มันต้องตั้งฮาเร็มแหงๆ เพราะชีวิตแลดูว่าง) แล้ววันดีคืนดี จู่ๆพลังพิเศษในตัวก็ลืมตาตื่นระหว่างการขับหุ่นสู้ ทำให้หุ่นกากๆรุ่นผลิตจำนวนมาก สามารถพลิกเกมกลับมาจากการต่อสู้กับหุ่นที่เป็นเครื่องเฉพาะตัวได้

หลังจากนั้นก็เหมือนบุญหล่นทับ นอกจากจะมีพรสวรรค์ที่ฟ้าบันดาลแล้ว พระเอกก็ได้เข้ากองทัพ ถูกส่งไป(หาเมีย)ที่โรงเรียนสอนขับหุ่น ได้หุ่นที่เป็นเครื่องเฉพาะตัว ที่สร้างด้วยเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด ทำให้เทพขึ้นไปอีก

อืมมมม พระเอกสายนี้ไม่ค่อยชอบเลยแฮะ ชอบไอ้ฝั่งตัวร้ายมากกว่าอะ เพราะตัวร้ายเป็นคนธรรมดา พลังและความสามารถในการขับหุ่นอยู่ในระดับธรรมดา ชีวิตประจำวันของเขาส่วนมากจะเป็นการฝึกซ้อม ขัดเกลาฝีมือ ดูแล้วมันน่าเอาใจช่วยมากกว่าไอ้พระเอกอีกนะเนี่ย 555+

ตัวละครตัวอื่นๆก็อ่านแล้วรู้สึกเหมือนแจกบทไม่ดีเช่นกัน อย่างตัวละครหญิงรุ่นพี่ ที่ถูกวางไว้ว่าเป็นตัวที่นางเอกมักจะทำเย็นชาใส่ เนื่องจากมีนิสัย yuri ชอบลวนลาม แต่ทั้งๆที่กำหนดบุคลิคกันไว้แบบนั้น แต่ยัยรุ่นพี่ก็ไม่เห็นจะทำแบบนั้นเลยนะ กำหนดเองแล้วลืมเองรึเปล่าเนี่ย

นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงเท่าไหร่ครับ เป็นฉากแอคชั่นของหุ่นยนต์ซะเยอะ ทั้งการสู้กันบนพื้น และการสู้กันกลางอวกาศ มีกองกำลังนู่นนี่นั่น ทั้งฝ่ายสภา ฝ่ายต่อต้าน มีหุ่นสีแดงแต่ความแรงจะ 3 เท่ารึเปล่าต้องดู มีท่านคิระ (ชื่อนี้จริงๆนะ) บลาๆๆ

รวมๆแล้วก็เป็นเรื่องที่สายเรียลโรบอตน่าจะอ่านได้อยู่ครับ ไม่ได้ถึงกับแย่อะไร ไม่แนะนำแค่เฉพาะกับคนที่ไม่ชอบแนวไซไฟเท่านั้นแหละ นิยายไซไฟกับอนิเมะไซไฟฟิลลิ่งมันต่างกันอยู่นะ ใครที่ชั่วโมงบินน้อยอยู่ก็ตัดสินใจดีๆละกันนิ
ความน่าสนใจ : 3/5

13/9/59

Nanase Kourei Gakuen no Akuma / โรงเรียนเจ็ดดาราพิชิตมาร

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Action Fantasy
จำนวนเล่ม : 6 เล่มจบ
เรื่องย่อ : “หยุดไม่ได้! ช่วยด้วย พี่ชาย!”

“เซกกะ!”

ผม ฮานามุระเกตโตะและเซกกะน้องสาวฝาแฝดเรียนอยู่โรงเรียนอัญเชิญวิญญาณเจ็ดดาวเหนือเพื่อฝึกฝนการเป็น [ผู้เชิญวิญญาณ] เพื่อจัดการกับปีศาจร้าย และระหว่างการทดสอบการอัญเชิญวิญญาณเพื่อแบ่งห้องเรียนก็เกิดความอลหม่านขึ้น สิ่งที่ออกมาจากจัตุรัสกลก็คือ...

“ข้าไม่ใช่แมว! แต่เป็นปีศาจ!”

แมวดำตาสีทอง!?

พวกผมดันอัญเชิญปีศาจออกมาซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนในชั้นการต่อสู้หรือชั้นกำลังสนับสนุนตามที่ต้องการ แถมยังต้องไปอยู่ในห้อง X ห้องเรียน [แบบอื่น]!?

นิยายแนวเลิฟแอคชั่นของพี่น้องสวีทหวานเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ความเห็นส่วนตัว : เห็นจั๋วหัวมาแนวนางเอกเป็นน้องสาวแบบนี้ ทำเอาผมมีอคตินิดๆเลยนะเนี่ย ยิ่งกับ LN ส่วนใหญ่ในสมัยนี้ที่มันค่อนข้างตลาดด้วย ยิ่งทำให้ความอยากอ่านลดน้อยลงไปอีก

แต่พอลองอ่านดูกลับเกินความคาดหมายไปหลายอย่างเลยครับ คาแรคเตอร์ตัวละคร ผิดจากที่คาดไว้พอสมควร ไม่ใช่แนวฮาเร็มดาดๆแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปอย่างที่คิดไว้ด้วย คู่พระนางก็ไม่ใช่ซิสค่อน บราค่อนที่จ้องจะซั่มกันอย่างเดียวโดยไม่สนใจชาวบ้านชาวช่อง พระเอกเป็นไอ้หนุ่มธรรมดาๆ ฝีมืออ่อนหัด แต่มีความพยายามในการพัฒนาตัวเอง และมีความเป็นผู้นำสูง ส่วนนางเอกก็มีสกิลในการยิงปืนสูง ติดพี่ในระดับที่ยอมรับได้ ไม่ถือว่าผิดปกติ ถ้ามองว่าเป็นพี่น้องที่มีอยู่แค่ 2 คน พ่อแม่ตายหมดน่ะนะ

ตัวละครตัวรองอื่นๆก็ไม่ใช่ตัวละครหญิงสายร่านแบบแนวตลาดๆทั่วไป ผิดคาดพอสมควรเลย เพราะเป็นเพื่อนร่วมชั้น หญิง1 ชาย1 ตัวหญิงค่อนข้างจะเป็นเด็กเงียบๆ มาสไตล์เด็กหัวดี ทฤษฎีแม่น แต่เรี่ยวแรงไม่มี เลยออกงานภาคสนามไม่ค่อยไหว ส่วนตัวชายก็กลับกัน เป็นไอ้หนุ่มนักกล้ามที่เรี่ยวแรงเหลือเฟือ


การแจกบทตัวละครต่างๆก็ทำได้ค่อนข้างโอเค การเดินเรื่องก็ไม่ถือว่าตลาดอะไรมากมาย มีจุดที่เดินเรื่องเกินคาดหลายจุดเลยด้วย ทำเอาต้องมองใหม่เลย ถ้ามัวอคติอยู่คงไม่ได้ล่ะ

โครงเรื่องก็เป็นโลกมนุษย์ที่ถูกปีศาจรุกราน พวกตัวเอกอยู่ในโรงเรียนที่ฝึกสอนให้เป็นนักปราบปีศาจเพื่อมาต่อสู้กับพวกปีศาจนั่นเอง แต่มันก็ดูตลาดถึงแค่ตรงนี้แหละ เพราะพระเอกมันไม่ได้วิเศษวิโสอะไร ไม่มีความสามารถแบบที่ตัวเองมีอยู่แค่คนเดียว พลังในการปราบปีศาจก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้หญิง โรงเรียนเองก็ไม่ใช่โรงเรียนหญิงล้วน และไม่ต้องทำเรื่องลามกแบบไร้จิตสำนึกเพื่อพาวเวอร์อัพอะไรด้วย

กลับกัน พระเอก รวมถึงตัวเอกอื่นๆ คือพวกนอกคอกที่ไม่สามารถจัดทีมเข้ากับคนอื่นได้ เพราะไม่มีความสามารถในการต่อสู้ที่สูงส่งแบบพวกหน่วยรบ ไม่มีความสามารถในการซัพพอร์ต จัดการงานเบ็ดเตล็ดแบบพวกสายธุรการ ไม่มีความสามารถในการวิจัย ไม่มีความสามารถทางการแพทย์ เป็นพวกที่ไม่มีอะไรตรงกับการแบ่งห้องเรียนของโรงเรียนได้เลย เลยถูกโยนมาอยู่ในห้องแยกต่างหากสำหรับพวกนอกคอก

ชีวิตในแต่ละวันของพวกตัวเอกเลยเน้นหนักไปที่การฝึกซ้อม และการถูกพวกนักเรียนหัวกะทิดูถูก แต่แม้จะฝึกซ้อมมาแค่ไหน ช่องว่างระหว่างคนธรรมดากับพวกอัจฉริยะก็กว้างจนไม่อาจใช้ความพยายามเติมเต็มได้ เป็นธีมของความพยายาม แล้วก็ล้มเหลว ผิดหวัง แต่ก็ยังลุกขึ้นสู้ แม้จะมีท้อแท้บ้างแต่ก็ไม่ท้อถอย

จุดพิเศษของตัวเอกที่มีความธรรมดาอย่างเดียวคือ ในโลกที่ใช้การอัญเชิญเทพมาสู้กับปีศาจ ไอ้พระเอกมันดันอัญเชิญปีศาจนี่สิ 555+ หรือเพราะแบบนี้มันถึงถูกจัดว่านอกคอกก็ไม่รู้นะ และถึงจะบอกว่าอัญเชิญปีศาจ แต่พระเอกมันก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น ปีศาจที่มันอัญเชิญมาเลยมีหน้าที่หลักๆอยู่ที่การเป็นเมด (ปีศาจสาวสวยอะนะ) คอยดูแลบ้าน ทำอาหารให้ เป็นหลัก ความสามารถในการให้ยืมพลัง เพื่อต่อสู้ยังเป็นปริศนา

แถม เพราะเป็นปีศาจเนี่ยแหละ ทำให้พระเอกและน้องสาวค่อนข้างต่อต้านยัยปีศาจสาวอยู่พอสมควร กลับกัน ยัยปีศาจเองก็เช่นกัน ทำให้ในเล่มแรก เลยเป็นการปูพื้นถึงการพยายามปรับตัวเข้าหากันของทั้ง2ฝ่ายเป็นหลัก ปมที่ผูกเอาไว้ยังมีไม่มาก แต่ก็ชวนให้ติดตาม (ซึ่งในส่วนนี้ ไปอ่านเองละกันนะ)

เรียกว่าเป็นเรื่องที่ดูเหมือนตลาด แต่ก็ไม่ตลาดล่ะ หนำซ้ำ สนพ.ของไทยเองก็ทำได้เหนือความคาดหมายซะด้วย ข้อผิดพลาดแบบที่ชวนให้ปาทิ้งนั้น ยังไม่เห็นนะ น่าตกใจจริงๆ และถ้าดูจากจำนวนเล่มทั้งหมดแล้ว ยังคาดเดาได้ยากว่าเนื้อเรื่องจบแค่นั้นแบบไม่อยากยืดเรื่องให้เสียอรรถรส หรือว่ามันถูกตัดจบกันแน่ 555+ ความน่าสนใจก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
ความน่าสนใจ : 4/5

12/9/59

Masou Gakuen HxH / เกราะผสานใจ HxH

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy Comedy
จำนวนเล่ม : 9 เล่ม - ยังไม่จบ (เล่ม7 มีปก2แบบ)
เรื่องย่อ : ผลงานที่ได้รับรางวัล <<ชนะเลิศ>> ในงานประกวดสนีกเกอร์ครั้งที่ 18!!

ฮิดะ คิสึนะ ถูกพี่สาวเรียกให้ไปหาที่โรงเรียนยุทธศาสตร์การป้องกันอทาแร็กเซียและได้พบกับสาวน้อยที่สวมชุดเกราะเวทมนตร์ <<ฮาร์ต ไฮเบริด เกียร์>> นาม จิโดริกะฟุจิ ไอเนะ

แล้วจู่ๆ ไอเนะก็ถอดเสื้อผ้าออกพร้อมกับบอกว่า
"อย่ามองนะเจ้าคนลามก"
"เธอต่างหาก!!"

จากนั้นพี่สาวก็ติดต่อเข้ามาเพื่อมอบหมายหน้าที่อันสำคัญยิ่งให้ เนื้อหาของมันก็คือ———

การจับหน้าอกของไอเนะ!?

ความจริงก็คือคิสึนะมีพลังพิเศษที่เมื่อทำเรื่องลามกกับเด็กผู้หญิง แล้วจะส่งผลให้เธอ "แข็งแกร่งขึ้น" แถมยังต้องฝากอนาคตของโลกไว้กับพลังนี้ด้วย!!
ความเห็นส่วนตัว : เสียเวลาอ่านชิบเป๊งเลย พักหลังมานี้ ชักสงสัยแล้วสิ ว่าไอ้รางวัลสนีกเกอร์อะไรนี่มันเป็นรางวัลไก่กาที่แค่เขียนเรื่องที่มีสาวร่านเยอะๆ มีฉากหื่นเยอะๆ ก็ได้รางวัลแล้วรึเปล่า

แค่นี้แหละ จบ!!

ไม่ใช่สิ ขืนพูดแค่นี้ คนเลิกอ่านบล็อคกันพอดี 555+ เอาใหม่ล่ะกัน เสียงในใจที่หลุดไปตะกี้ไม่นับนะ เอาล่ะ คือเรื่อง Masou Gakuen HxH หรือ Hybrid x Heart Magis Academy Ataraxia เนี่ย มันเป็นแนวที่ควรจัดเรตไว้แถวๆ 17.9 ครับ พูดง่ายๆก็คือเป็นแนวที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนคนเขียนอยากข้ามไปอยู่ด้านมืด แต่ใจไม่กล้าพอ หรือไม่ก็เป็นไอ้หนุ่มเชอร์รี่บอย ที่ไร้ประสบการณ์ ก็เลยไม่รู้จะเขียนด้านมืดออกมายังไงให้สมจริง สุดท้ายแล้วพระเอกในเรื่องก็เลยค้างๆคาๆ เป็นไอ้หนุ่มนกเขาไม่ขัน ที่ได้ขยำนมสาวๆ ลูบไล้ ล้วงควัก บลาๆๆ แต่ก็หมดแค่นั้น ไม่มีความกล้าพอจะทำมากเกินไปกว่านั้น

เฮ้ย แกมีไข่รึเปล่าฟ่ะ สถานการณ์แบบนั้น ถ้าไม่ใช่พระอิฐพระปูน มันต้องมีหลุดๆบ้างแหละหน่า เอ๊ะ หรือมันเป็นเกย์ 555+

นอกเหนือจากความอ่อนด้อยไร้ประสบการณ์ของคนเขียน ที่ทำให้เรื่องราวมันคาอยู่ตรง 17.9 แล้ว คาแรคเตอร์ทั้งหลายก็ค่อนข้างตลาดครับ มาตามสูตรสำเร็จทุกประการ อย่างการที่พระเอกครอบครองพลังที่ปกติแล้วจะมีแต่ผู้หญิงที่ใช้งานได้ดี ก็เลยถูกโยนเข้ามาอยู่กลางวงสาวๆ ฝั่งสาวๆก็เป็นตัวละครหญิงสายร่านที่ไม่เคยเจอผู้ชายมาก่อน พอเห็นตัวผู้หลงฝูงก็เลยตาลุกวาว แห่กันเข้ามาแย่งดุ้นทองคำกันใหญ่ แต่น่าเสียดาย ไอ้ตัวผู้ที่ว่าแม่งดันเป็นเกย์ซะชิบ

ทางด้านโครงเรื่องก็แค่ โลกจู่ๆก็ถูกเหล่าสาวก(?)รุกราน หลายครั้ง ตั้งแต่เฟิร์สอิมแพ็ค(?) เซคันด์อิมแพ็ค(!!) จนมนุษย์โลกสูญเสียดินแดนเป็นจำนวนมาก ชาวญี่ปุ่นต้องหนีมาสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ นีโอโตเกียว...อืม แต่เมืองนี้เป็นเกาะเทียมลอยน้ำน่ะ โดยมีกองกำลังป้องกันการตามราวีของเหล่าสาวกที่ไม่ได้มีชื่อว่าเนิร์ฟหรอกนะ

ไอ้พระเอกที่จู่ๆก็ถูกพี่สาว ที่ไม่ได้ใส่แว่นตา แล้วก็ไม่ได้ชอบนั่งเท้าคางเรียกตัวมา แล้วจู่ๆก็บอกให้ขึ้นไปขับหุ่นที่มีรหัส 01....ไม่ใช่ล่ะ จู่ๆก็บอกให้ไปขยำนมสาวๆต่างหาก เพื่อเพิ่มพลัง(ด้วยการทำลามก) ฝ่ายสาวๆ ไม่เคยถูกใครจับมาก่อน พอโดนขยำเข้าไปก็ฮิสแตก กลายเป็นสาวฮิสทีเรียเต็มขั้นอย่างที่พูดไปแล้ว ข้ามไปละกันเนอะ

สาระก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นครับ เป็นเรื่องที่อ่านไปแค่ไม่กี่หน้า นอกจากจะเดาเนื้อเรื่องรวมๆได้แล้ว ยังเดาได้แม้แต่การดำเนินเรื่องกันเลยทีเดียวเชียว เทียบๆกันแล้ว ขนาดอดัมที่ว่าห่วยๆ ยังดูดีกว่าเรื่องนี้เลยล่ะ อย่างน้อยๆเรื่องนั้นคนเขียนมันก็กล้าคลาสเชนจ์เป็น Night Walker ไม่ใช่มาปอด เลยเขียนกั๊กๆอยู่ที่ 17.9

ทางด้านภาพประกอบเองก็วาดออกมาเหมือนไม่ได้คุยกับคนเขียน ตามเนื้อเรื่องนางเอกนมใหญ่กว่านางรอง และมีฉากนางเอกแซวนางรองตลอดว่าอกแบน แต่ภาพประกอบนี่ ไซส์นมสลับกันเลย ไหนจะเรื่องอื่นๆอีก

สรุปว่า ถ้าใครชอบแนวนี้ ไปถามอากู๋ด้วยคีย์เวิร์ดพื้นฐานที่รู้ๆกันอยู่แล้ว ยังจะเจอเรื่องที่ดีกว่านี้เพียบเลยมั้งครับ คนไทยบางคนแต่งดีด้วยนะ แถมไม่ต้องเสียเงินด้วยสิ
ความน่าสนใจ : 1/5