แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 4 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : เมื่อมนุษย์รับรู้ถึงการมีตัวตนของ “เทพ” สงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุดลง ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็เริ่มต้นขึ้นโอริจิน [อามาเทราสุ] และทัตสึมิยะ มินาโตะ ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์เดินทางกลับมาที่ดินแดนที่เคยเป็นประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้ง แรกในรอบสิบปี... ที่ตั้งของเขตปกครองพิเศษทั้งเจ็ด ที่นี่คืออวาลอนแห่งแดนอาทิตย์อุทัยที่เหล่าเทพผู้คํ้าจุนทั้งเจ็ดรวมตัวกัน สร้างขึ้นมาเพื่อให้ [มนุษย์และเทพอยู่ร่วมกัน] อย่างสงบสุข แต่ระหว่างพิธีเลี้ยงต้อนรับการกลับมา กลุ่มก่อการร้าย [อาโพคาลิพส์]ซึ่งเป็นมนุษย์ที่ต้องการทำลายล้างเหล่าเทพก็บุกเข้าโจมตี และมินาโตะก็ได้เห็นเพื่อนเก่าอย่างฮิดะ เร็นจิอยู่ในกลุ่มคนร้ายด้วย.......? เพื่อสร้างดินแดนที่เหล่าเทพและมนุษย์อยู่ร่วมกันได้ ชายหนุ่มผู้สืบสายเลือดมังกรจึงกวัดแกว่งดาบ...! การสร้างดินแดนในอุดมคติที่ยากลำบากก็เริ่มต้นขึ้น!ความเห็นส่วนตัว : Shikai Ryuuou to Kyokutou no Avalon หรือ Shikai Ryuuou to Kyokutou no Nanabashira Tokku เป็นแนวแฟนตาซีที่ค่อนข้างจะฉีกออกจากแนวเดิมๆอยู่สักหน่อย นั่นก็คือ ตามโครงเรื่องของการขัดแย้งระหว่าง 2 เผ่าพันธุ์ในอดีต นำมาซึ่งนิสัยโลกสวยของนางเอกในปัจจุบันที่ต้องการอยู่ร่วมกันนั้น โดยส่วนมาก แก๊งตัวเอก หรืออย่างน้อยๆก็พระเอก จะอยู่ในเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่า ในกรณีนี้ ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างเทพกับมนุษย์ มันก็ควรจะเป็นมนุษย์
แต่เรื่องนี้กลับตรงกันข้าม ให้แก๊งตัวเอกทั้งหมดเป็นเทพซะอย่างงั้น เล่นประเด็นดราม่าของคนที่แข็งแกร่ง ต้องการอยู่ร่วมกับผู้ที่อ่อนแอกว่า ซึ่งก็แน่นอนว่า สันดานของมนุษย์ ถ้าตัวเองไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด ก็จะไม่ยอมอยู่ร่วมกับใคร ต้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกฝ่ายให้หมด ตัวเองถึงจะรู้สึกปลอดภัย อันเป็นสิ่งที่ทำให้เทพอย่างพวกตัวเอกต้องปวดหัวกันไม่น้อย
ทางด้านคาแรคเตอร์ เมื่อเป็นแนวแฟนตาซี พระเอกต้องเป็นนักดาบแน่นอน 555+ แต่เมื่อเป็นเทพทั้งที จะใช้ดาบธรรมดาก็กระไรอยู่ พระเอกเลยเป็นนักดาบเวทมนต์ไปซะ แต่เวทมนต์ที่พระเอกใช้ก็กลับเซอร์ไพร์สมากครับ มันใช้ "น้ำ"
เพราะตามปกติแล้ว เวทมนต์ของตัวเอกที่พบเห็นในนิยายบ่อยๆมักจะเป็นไฟ รองมาคือลม ซึ่งเป็นธาตุที่สามารถแสดงความเวอร์วังอลังการ ในฉากโชว์เทพของตัวเอกได้ง่าย และไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวาย สร้างลูกไฟแล้วยิ่งตูมๆเป็นอันจบ
แต่พอใช้น้ำปุบ ก็วัดความคิดสร้างสรรคของคนเขียนล่ะ ว่าจะสามารถจินตนาการ "น้ำ" ในฐานะอาวุธออกมาได้ดีแค่ไหน และถ่ายทอดออกมาอย่างไร ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าทำได้ดีนะครับ นอกจากดาบน้ำที่เปลี่ยนแปลงระยะ และเปลี่ยนแปลงสถานะได้ตามใจชอบแล้ว เวทมนต์สายน้ำ ก็แสดงความอลังการออกมาได้เหมือนกัน นี่ยังไม่รวมถึงการประยุกต์ใช้น้ำในสถานะต่างๆได้ตามสถานการณ์ต่างๆด้วยนะ แต่ไปอ่านเองดีกว่า 555+
การเดินเรื่องและการแจกบทตัวละครก็ทำได้ดี ทั้งๆที่เทพญี่ปุ่นนั้น บอกเลยว่าคนไม่ค่อยรู้จักหรอก คนเขียนเลยพยายามใช้เทพที่มีชื่อเสียง คนรู้จักอยู่แล้ว หรืออย่างน้อยก็น่าจะเคยผ่านหูมาบ้าง อย่างอามาเทราสุ แล้วยังดึงเทพตะวันตกที่มีชื่อเสียงอย่าง ทูตสวรรค์ มิคาเอล มาแจมด้วย ส่วนเทพแปลกๆในตำนานอื่น คนเขียนเก็บไว้ในฐานะตัวประกอบไปก่อน ไม่ฝืนแจกบทให้ตัวละครโผล่มาพรึ่บพรับเยอะแยะเต็มไปหมดโดยไม่จำเป็นเหมือนบางเรื่อง เมื่อมาประกอบกับการเดินเรื่องที่ไม่มีความตลาด ทั้งจุดไคล์แม็กซ์เองก็กำหนดไว้ชัดเจน ทำให้สามารถอ่านได้อย่างไหลลื่นโดยไม่รู้สึกติดขัดอะไรครับ
ในเรื่องของศัพท์เฉพาะเอง ก็มีเยอะนะ แต่สกิลการถ่ายทอดเรื่องราวของคนเขียนค่อนข้างสูง เขาจะไม่สักแต่ยัดศัพท์เฉพาะที่ตัวเองบัญญัติขึ้นมาใหม่เข้ามาในเรื่องรัวๆ จนคนอ่านตามไม่ทัน แต่จะเริ่มจากเรื่องเบสิคให้คนเข้าใจโครงเรื่องก่อน แล้วศัพท์เฉพาะถึงจะค่อยๆเข้ามาแจมทีละนิดๆ จนอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ หรือเกิดความรู้สึก "อะไรของมันวะ" แบบบางเรื่อง
และที่ประทับใจที่สุดคือ ฝ่ายคู่ปรับของพระเอกก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เวลาต่อสู้กันเลยไม่ให้ความรู้สึกแบบ "ทำร้ายผู้หญิงว่ะ" แถม เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน เลยสามารถเข้าฉากแอคชั่นจัดเต็มได้ โชว์ความอลังการของเวทมนต์และเพลงดาบซัดใส่กันได้เต็มที่ โดนเข้าไปทีก็ได้แผล เลือดสาดกันไป ดีกว่าสู้กับผู้หญิง แล้วใช้กฎของโลก2Dที่ตัวละครหญิงจะไม่มีทางมีแผลเด็ดขาด สุดท้ายเวทมนต์ที่ระเบิดภูเขาได้เป็นลูกๆ ก็ทำได้แค่ฉีกเสื้อผ้าผู้หญิง กลายเป็นคอเมดี้เกรดต่ำด้วย นับว่าถูกใจมากเลยครับ
ทางด้านสนพ.ไทยนั้น สำหรับเรื่องนี้ทำได้ค่อนข้างโอเคอยู่ จุดพิมพ์ผิดไม่ค่อยมี รูปเล่มกับราคาก็อยู่ในระดับที่รับได้ รวมๆแล้วไม่มีจุดที่ต้องคอมเม้นเป็นพิเศษครับ
ความน่าสนใจ : 5/5