26/12/57

Saijaku Muhai no Bahamut / บาฮามุท มังกรเหล็กไร้พ่าย

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Action
จำนวนเล่ม : 5 เล่ม - ยังไม่จบ (ปกเล่ม4มี2แบบ)
เรื่องย่อ : ทุกคนต่างรู้ดีว่า ลุกซ์ เจ้าชายแห่งจักรวรรดิที่ล่มสลายจากการปฏิวัติเมื่อ 5 ปีก่อน เป็น “แดร็กไนท์” ผู้แข็งแกร่งที่สุดและเชี่ยวชาญในการใช้มังกรกล “แดร็กไรท์” แต่เพราะยุทธวิธีที่ใช้ ทำให้เขามีฉายาว่า “ปวกเปียกผู้ไร้พ่าย” วันหนึ่ง ลุกซ์ได้กระทำผิดโดยลักลอบเข้าไปในโรงอาบน้ำของหอพักหญิง จนได้พบกับเจ้าหญิงแห่งราชอาณาจักรใหม่ “ลีซชาลเต้” ด้วยผลจากการท้าดวลของลิซชาลเต้ ทำให้ลุกซ์ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนสตรีที่ฝึกสอนการเป็นแดร็กไนท์...!?

เรื่องราวของเด็กหนุ่มซึ่งรายล้อมไปด้วยเหล่าลูกสาวขุนนาง ขัดเกลาด้วยยุติธรรมและความทะเยอทะยานเพื่อจะเป็นผู้ที่ “แข็งแกร่งที่สุด” ในโรงเรียนได้เปิดฉากขึ้นแล้ว!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้จะใช้ IS มาเป็นพื้นฐานนะครับ แล้วเอามาขัดเกลาอีกที ดังนั้นโครงเรื่องพื้นฐานก็คือ จะมีเครื่องยนต์(แบบเรื่อง IS เลย) ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ และสามารถใช้เป็นกำลังรบได้ เรียกว่าแดร็กไนท์ โดยนักบินที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมเครื่องก็จะเป็นผู้หญิงอีกเช่นเดียวกัน

ทำให้เวทีในการเดินเรื่องเป็นโรงเรียน(หญิงล้วน)สำหรับฝึกสอนการใช้แดร็กไนท์ แล้วพระเอกก็ตามกฎมาตรฐานของ LN ครับ หากสิ่งไหนที่กำหนดว่า "เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น" พระเอกมันจะมีสกิลนั้นด้วย 555+ เรื่องนี้ก็วางบทไว้ให้พระเอกเป็นผู้ชายคนเดียวที่ควบคุมมังกรกลได้เหนือชั้นยิ่งกว่าผู้หญิงทั่วไป ก็เลยมีเรื่องจับพลัดจับพลูให้ต้องมาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ในฐานะผู้ชายคนเดียวนั่นเอง

ฉากการเจอกันของคู่พระนางก็เบสิคๆ ตามสไตล์สายฮาเร็ม นั่นก็คือนางเอกอาบน้ำอยู่ แล้วพระเอกก็โผล่พรวดพราดเข้ามาเห็นจะๆ สุดท้ายก็โดนสอย ตามสูตรมาตรฐานนั่นแล

แค่นั้นยังไม่พอ เจ้ามังกรกล แดร็กไนท์เนี่ย มันก็มีเครื่องที่เป็นเฉพาะตัวอยู่เหมือนกัน ถ้าใช้ศัพท์แบบ IS น่าจะเรียกว่าเครื่องเฉพาะตัวล่ะมั้ง ถ้าใช้ศัพท์แบบกันดั้มก็ต้องบอกว่า มันมีเครื่องแบบที่ไม่ใช่รุ่นผลิดจำนวนมากอยู่ครับ 555+ ซึ่งเครื่องพวกนี้ในเรื่องจะเรียกว่าเครื่องยนต์มังกรเทพ แต่ล่ะเครื่องจะมีเอกลักษณ์ รวมไปถึงอาวุธเฉพาะตัวของตัวเอง อย่างเครื่อง "เทียแมท" ของนางเอก ก็ยังมีเลเซอร์บีม7 และฟันเนล12อัน (คุ้นๆนะ แต่เอาเถอะ 555+) ให้สเปคเครื่องสูงคู่ควรกับชื่อของพญามังกรแห่งตำนานของบาบิโลเนียล่ะนะ ส่วนของพระเอกเองก็แน่นอน ชื่อเรื่องมันสปอยอยู่แล้ว 555+

แดร็กไนท์ ประเภทมังกรเทพ "เทียแมท" ขณะใช้ปืนใหญ่ "เซเว่นเฮด"
ถึงอย่างงั้น แม้จะเอาแรงบันดาลใจมาจากเรื่องดังกล่าวเกือบทั้งหมด แต่เรื่องนี้ก็พยายามสร้างเอกลักษณ์ในตัวเองอยู่เช่นเดียวกัน ผู้เขียนจึงพยายามผูกปม สร้างดราม่าการเมือง และอื่นๆออกมา รวมไปถึงเรื่องนี้พระเอกมันไม่กาก ก็เลยยังอยู่ในระดับพอรับได้กับเรื่องราวอยู่ ไม่ถึงกับแย่มากมายอะไรครับ

ในส่วนของสนพ.ไทย การเข้าเล่มและการพิมพ์ก็ดีขึ้นกว่าเรื่องอื่นๆ ราคาก็ไม่จัดว่าสูง เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆไม่ว่าจะเป็นของสนพ.นี้หรือสนพ.อื่น ซึ่งเมื่อนำส่วนนี้มาประกอบกับเนื้อเรื่องแล้วจึงอยู่ในระดับที่สามารถซื้อมาอ่านเล่นฆ่าเวลาได้ครับ
ความน่าสนใจ : 3/5

11/12/57

Clockwork Planet / ฟันเฟืองหัวใจ กลไกเวลา

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 3 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : อาจจะกันทันหันไปสักหน่อย แต่โลกนี้ไดัดับชีพลงเสียแล้ว โลกที่ตายไปโดนสร้างจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาใหม่ด้วยกลไกนาฬิกาจักรกล และถูกเรียกว่า 'คล็อกเวิร์ก แพลนเน็ต' อยู่มาวันหนึ่งได้มีกล่องสีดำตกลงมายังบ้านของนักเรียนมัธยมปลายหางแถว มิอุระ นาโอโตะ ภายในกล่องนั้นคือสาวน้อยออโตมาตา

'แค่ข้อผิดพลาดเพียงจุดเดียวถึงกับต้องปิดเครื่องฉันไป 200 ปี ความรู้ของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติคงยังไม่เกินมาตรฐานของเหลือบไรเลยสินะคะ____!?'

การขัดข้องที่ต้องคอยต่ออายุขัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า โลกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ มวลมนุษยชาติที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ วันที่อุดมคติและความเป็นจริงพร้อมใจกันกรีดร้องขึ้นมา การพบพานของทั้งสองได้หมุนกงล้อแห่งชะตากรรมให้พลันเคลื่อนไหว! นิยายแฟนตาซีฉบับปฏิวัติที่ ยู คามิยะ x สึบากิ ฮิมะนะ x ชิโนะ ร่วมกันถักทอ!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีที่ใช้คนเขียน 2 คนช่วยกันทำ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับคนเขียนคู่นี้จะเขียนอยู่ท้ายเล่ม ในลักษณะเหมือนเป็นนิยายตอนสั้นๆนะครับ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะนะ

เมื่อพูดถึงความเป็นแฟนตาซีแล้ว ส่วนมากก็จะคิดถึงบรรยากาศเดิมๆ กับพล็อตเรื่องซ้ำซากใช่มั้ยล่ะครับ แต่เรื่องนี้ไม่เป็นแบบนั้นครับ จินตนาการ และไอเดียในการวางพล็อตบรรเจิดมาก อยู่ในระดับที่ใช้ชื่อ แฟนตาซีครั้งสุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุดสักที XXXVIII ได้เลยทีเดียว (ฮา) เวทีในการดำเนินเรื่อง ใช้วิธีการสร้างโลกใหม่ครับ คือวางพล็อตเรื่องเป็นโลกใบใหม่ ที่แตกต่างไปจากโลกที่เราๆอยู่กัน ไม่ใช่มุกหลุดไปต่างโลก หรือโดดเข้าไปในเกมอะไรทั้งนั้น แต่เป็นการลืมตาขึ้นมาในโลกใบใหม่เลยนั่นเอง โดยโลกในเรื่องนี้จะเป็นโลกที่เคยตายไปแล้ว และมนุษย์(?)คนนึงก็จัดแจงดัดแปลงให้มันเป็นดาวที่ขับเคลื่อนไปได้ด้วยฟันเฟือง

ส่วนคาแรคเตอร์แต่ล่ะตัว แม้จะมีบางส่วนที่ดูคุ้นๆอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วก็มีมิติที่ดีมากครับ โดยเฉพาะข้อดีข้อเสีย ซึ่งแสดงออกมาให้เห็นชัดเจนในเวลาคับขัน อย่างเช่นพระเอกที่พลังต่อสู้เป็นศูนย์ ความสามารถในการวางแผนก็ไม่มี หัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง แต่ดันมี "หู" ที่ดีกว่าคนทั่วไปหลายเท่า สามารถฟังเสียง และแยกแยะสิ่งต่างๆด้วยเสียงได้อย่างละเอียดละออ ถึงขนาดยืนอยู่บนพื้นดิน แต่ถ้าตั้งใจจะฟัง ยังฟังเสียงลานตัวเล็กๆในชั้นใต้ดินที่ลึก20กว่าชั้นได้เลย อะไรประมาณนั้น เป็นต้น
และการที่มนุษย์ที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป มารวมกลุ่มกัน ข้อดีของคนนึงก็เพียงพอที่จะชดเชยข้อเสียของอีกคนนึงได้ กลายเป็นทีมที่ลงตัวสุดๆไปเลยซะอย่างงั้น แถมการรวมตัวของคนกลุ่มนี้ แม้คริสตัลจะไม่ได้นำทาง ไกอาจะไม่ได้นำพา แต่พวกเขาก็มีเป้าหมายราวกับเป็นอัศวินแห่งแสง (ฮา) นั่นก็คือการช่วยเหลือโลกแห่งฟันเฟืองนี้นั่นเอง

นอกจากเรื่องพล็อต เรื่องคาแรคเตอร์แล้ว การดำเนินเรื่องยังต้องบอกว่าใช้ได้เลยทีเดียว มีการสลับจุดดราม่า กับจุดผ่อนคลายอารมณ์ได้อย่างลงตัว โดยไม่ทำให้อรรถรสของเรื่องเสียไป มีวิธีการนำเสนอเรื่องราวน่าสนใจ ทำให้อ่านสนุกซะจนที่เรียกว่า เห็นเล่มหนาๆแบบนี้ แต่เพลินมาก รู้ตัวอีกทีจบเล่มแล้ว อะไรประมาณนั้นเลย

เรียกได้ว่าถ้าเป็นคนที่ชอบแนวแฟนตาซีที่ไม่ค่อยจะตลาด มีความอลังการในพล็อตเรื่อง และเดินเรื่องน่าสนใจ ก็น่าจะชอบเรื่องนี้เลยล่ะครับ (คือจะบอกว่าเป็นสไตล์แฟนตาซีครั้งสุดท้าย มันก็ไม่เชิงเท่าไหร่ เพราะส่วนตัวไม่ใช่แฟนเกมซีรีย์นั้น กลัวจะสื่อความหมายผิด 555+)

แต่ถึงอย่างงั้น จุดที่อาจจะกลายเป็นข้อเสียในอนาคตก็มีอยู่บ้างนะครับ ซึ่งส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ใช้ผู้แต่ง 2 คนช่วยกันนี่แหละ ก็คือ ถ้ามีปัญหากันเอง หรือคนใดคนหนึ่งอู้ ทิ้งงาน หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็เถอะ ที่ทำให้จาก 2 เหลือ 1 ผลกระทบถึงชิ้นงานก็อาจจะตามมาได้ล่ะนะ เผลอๆจะกลายเป็น Endless ซะอีก

หรืออีกอย่างหนึ่งซึ่งตอนนี้ก็แสดงให้เห็นอยู่หน่อยๆแล้ว ก็คือเรื่องความเร็วในการออกแต่ล่ะเล่มนี่แหละครับ ไม่รู้เพราะใช้ผู้แต่ง 2 คนรึเปล่า ระยะเวลาแต่ล่ะเล่มเลยค่อนข้างทอดยาว อย่างช่วงเล่ม1 ไป 2 ใช้เวลาราวๆ 9 เดือนเลยมั้ง แล้วยิ่งเล่ม2 ไป 3 นี่ หวดไป 11-12 เดือน เกือบๆ 1 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นคนที่ไม่ชอบรอนานๆก็คงต้องตัดสินใจกันหน่อยแล้วล่ะนะ
ความน่าสนใจ : 5/5

9/12/57

Sexual Hunter Riot / ชมรมผู้กล้านักล่าพันธุ์เพี้ยน

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 5 เล่มจบ
เรื่องย่อ : ริคุ โยอิจิ คือสุดยอดฮันเตอร์ที่มีหน้าที่ไล่ล่า 'คิริโอนิระ' ที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้กับมวลมนุษย์ ถึงขนาดที่เขาเคยจัดการบอสใหญ่แห่งคิริโอนิระ----- ผู้ถูกขนานนามว่า 'จอมราชา' มาแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้เขาต้องสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไป นั่นคือแหล่งกำเนิด 'พลัง' ของฮันเตอร์

แต่ในขณะที่เขาคิดว่าโลกกลับมาสงบสุขแล้วนั้น จอมราชาและเหล่าคิริโอนิระก็ฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง โยอิจิจึงต้องขอความช่วยเหลือจาก นัมบะ เพื่อนสมัยเด็กของเขาและเพื่อนสาวอีก 2 คืน เพื่อฟื้นคืน 'พลัง' และกลับไปต่อสู้กับคิริโอนิระอีกครั้ง!

ผลงานสุดหื่นตื่นเต้นระทึกใจของ โทชิฮิโกะ สึคิจิ เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ามันเป็นแนว Action Comedy ซะมากกว่าอะนะ แต่เอาเถอะ จะว่ามันเป็น Fantasy มันก็ใช่อยู่นิดๆเหมือนกัน

เรื่องนี้อ่านดูแล้วคิดว่าน่าจะเขียนขึ้นเพื่อสนองนีทคนเขียนโดยเฉพาะอะนะครับ ตรรกะผิดเพี้ยน การกำหนดคาแรคเตอร์แปลกๆพิลึกพิลั่น จนพอเห็นจำนวนเล่มแล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่อะนะ

มันมั่วซั้วยังไงน่ะเหรอ เอาเรื่องที่เห็นชัดๆก่อนล่ะกัน ก็คือ "พลัง" ที่ใช้ในการต่อสู้ ในเรื่องนี้คือความต้องการทางเพศครับ แต่เพราะพล็อตเรื่องกำหนดมาแล้วว่าพระเอกทำลายจอมมารโดยใช้ความต้องการทางเพศทั้งหมดของตนเอง ทำให้ตอนนี้เขาไม่แข็ง 555+ แต่!!! การที่ความต้องการทางเพศหายไป ทำไมความทรงจำของพระเอกมันหายไปด้วยฟ่ะ มันอ้างว่ามันจำเรื่องราวในอดีตไม่ค่อยได้ มารยาททางสังคมขั้นพื้นฐานก็ไม่รู้ เอ็งเก็บความทรงจำเอาไว้ในความหื่นเรอะ -_-

ไหนจะเรื่องที่ว่า พอความต้องการทางเพศหายไป พระเอกมันก็เลยไม่รู้จักความรักไปด้วยอีก เพราะเนื้อเรื่องกำหนดให้พระเอกมองว่าความต้องการทางเพศ = ความรักเพียวๆ อืมมม นอกจากความทรงจำจะหายไปแล้ว เรื่องพื้นฐานมันก็หายไปหมดเลยสินะ ไหนจะเรื่องที่พระเอกมันพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องอีก

และพอพระเอกมันต้องการฟื้นฟูพลัง(ความหื่น)ของตัวเองกลับมา มันก็เลยเที่ยวดูของลามกเพื่อทำให้มันแข็งอีกครั้ง แต่คาแรคเตอร์ในเรื่องนี้ นอกจากนางเอกแล้ว ผู้หญิงคนอื่นก็...เอิ่ม ไม่รู้จะพูดยังไงแฮะ เจอหน้าพระเอกครั้งแรกก็ยอมให้ดูกางเกงในได้แล้ว ผ่านไปอีกไม่กี่วัน พระเอกของดูกางเกงใน ก็เปิดให้ดูได้หน้าตาเฉยอีกต่างหาก ชวนให้รู้สึกว่าที่นี่มันคือโรงเรียน หรือซ่องฟ่ะเนี่ย orz มีแต่ผู้หญิงแบบนี้เรอะ

และเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่ขี้เกียจพิมพ์แล้วครับ เอาเป็นว่าโดยสรุปคือ มันเป็นเรื่องที่แปลกแหวกแนวมาก น่าจะสนองนีทคนเขียนล้วนๆ แต่มันแนวเกินไปจนหาความสนุกไม่ได้อะนะ เดินเรื่องขัดกันเองเต็มไปหมด เลยไม่ค่อยสงสัยเท่าไหร่ที่เจ้าของหนังสือเล่มนี้ ตอนเอามาให้ผมยืม มันบอกว่า "ถ้าอ่านแล้วชอบ ไม่ต้องเอาไปคืนก็ได้" แต่...เอิ่ม...สงสัยต้องคืนแฮะ 555+
ความน่าสนใจ : 1/5

7/12/57

Hatoko-san to Love Comedy / เมดสาวแซบแสบเกินร้อย

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Love Comedy
จำนวนเล่ม : Unknown
เรื่องย่อ : ผมชื่อเฮวะจิม่า ฮายาโตะ ผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกให้เป็นทายาทเฮวะจิม่าไชบัทสึในวันข้างหน้า ผมควรจะได้เป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มไชบัทสึ ก็เลยต้องเรียนรู้วิถีแห่งการเป็นราชาจากคุณฮาโตโกะที่เป็นเมดของผม แต่ว่า....

'นายน้อย กรุณาอย่าบ่นพึมพัำคนเดียวได้ไหมคะ มันน่าขยะแขยงน่ะ'

'นายน้อยคะ ถ้าเกิดว่าเผลอหวั่นไหวกับการที่ดิฉันล้มทับแค่นี้ล่ะก็จะหมดคุณสมบัติในการเป็นทายาทเลยนะคะ'

'นายน้อยคะ ต่อให้ดิฉันสวยเลิศเลอแค่ไหน ก็หยุดมองด้วยสายตาน่ารังเกียจแบบนั้นเสียที ไม่งั้นดิฉันจะเรียกตำรวจนะ'

อืม.... วันนี้คุณฮาโตโกะก็ไม่ยอมเหมือนทุกที หรือจะถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนนิสัยใหม่ซะแล้ว

ก็ตามนั้นแหล่ะ เรื่องราวความรักระหว่างผมกับคุณฮาโตโกะที่ไม่ใช่เรื่องโกหกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นสายเมดที่ห่างหายไปนานครับ จนตอนแรกเผลอคิดว่าเป็น LN เมื่อ10ปีก่อนเลยนะเนี่ย 555+ ช่วงที่สาวเมดยังพอได้รับความนิยมอยู่บ้าง แต่ก็คิดผิดซะงั้น มันเพิ่งเขียนเมื่อไม่นานมานี้เองแฮะ ปก LN แต่ล่ะเล่มๆ ก็ยังเป็นนางเอกในชุดเมดเพียวๆซะด้วย แสดงว่าคนเขียนชอบสาวเมดมากเลยนะนั่น

ส่วนการดำเนินเรื่องจะเป็นแนวเลิฟคอมตามชื่อเรื่องเป๊ะครับ (ชื่อเรื่องญี่ปุ่นน่ะนะ) ซึ่งจะเป็นการยิงมุกตบมุกของคู่พระนางเป็นหลัก บางครั้งจะมีตัวเสริมอย่างนางรองมาช่วยเล่นมุกด้วย โดยคาแรคเตอร์ของ 2 สาวจะเหมือนเรื่อง ไร้เพื่อน เป๊ะเลยมั้ง ยัยนางเอกคล้ายฟ้ามืดซะเหลือเกิน โดยเฉพาะสกิลปาก ส่วนยัยนางรองที่โดนแกล้งจนร้องไห้อยู่ร่ำไปแต่ไม่เคยจะเข็ดก็คือเนื้อดีๆนี่เอง

แต่ก็เหมือนแค่คาแรคเตอร์ตัวละครนะครับ เนื้อเรื่องไม่ได้เหมือนแต่อย่างใด เรื่องนี้ก็มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง แถมพระเอกยังมีความกล้าในการตัดสินใจทำอะไรมากกว่า และหัวดีกว่าด้วยมั้ง 555+ มีความคิด รู้จักใช้เหตุผล รู้จักพูด

ถ้ากดดูรายละเอียดในอินเตอร์เน็ตจากเวบนอก บางเวบจะลงว่าเป็นแนวทะลึ่งตึงตังอยู่ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถ้ามองแบบนั้นก็ไม่ผิดครับ เนื่องจากในแต่ล่ะเล่มจะมีฉากเซอร์วิสชวนจิ้นอยู่บ้างอะไรบ้าง อย่างในเล่ม1ก็มีฉาก Yuri อยู่เหมือนกันนะ ล้วงกันซะเคลิ้มเลย 555+

ในส่วนของการแปลนั้น อยู่ในระดับใช้ได้ครับ รูปเล่มและราคาก็ไม่ถึงกับแพงมากมายอะไร
ความน่าสนใจ : 3/5

6/12/57

Tsuki Tsuki! / ภูตรักพิทักษ์เธอ

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Love Comedy
จำนวนเล่ม : 12 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ผมต้องตกใจสุดขีดเมื่อตื่นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบสาวผมทอง (อกโต) นอนเปลือยอยู่ข้างๆ สาวผมทอง เธอเป็นใครกันแน่? "ฉันคือทาสของคุณชิโนบุ" เดี๋ยว ว่าไงนะ ทาสเรอะ...! แต่ดูเหมือนหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าลูน่าจะไม่มีที่ไป ก็เลยมาอยู่ที่บ้านของผมซะนี่ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้นะ จะว่าไปแล้วสงสัยเป็นเพราะผมดันไปให้อาหารกับสาวน้อยในเมืองที่อ้างว่าตัว เองเป็นเทพชื่อเอลนี่หรืออะไรสักอย่างเข้า เธอเลยพูดว่า "ฉันจะมอบภูตอารักษ์ให้นาย" จากนั้นทิ้งแหวนปริศนาไว้ให้

นี่คือผลงานเปิดตัวที่ได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ครั้งที่ 6 เรื่องราวโรแมนติกคอเมดี้ที่สุขดั่งสวรรค์ของนักเรียนและภูตอารักษ์ กำลังจะเริ่มต้น ณ บัดนี้
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นแนวเลิฟคอมยุคเก่าอีกเรื่องนึงครับ โดยนางเอกจู่ๆก็จะปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าพระเอกตามสูตร แม้จะไม่ได้ร่วงลงมาจากฟ้าก็เถอะ 555+ เสร็จแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพระเอกได้หน้าตาเฉย โดยในเรื่องก็จะมีความเป็นแฟนตาซีเข้ามาด้วย นั่นก็คือคนรอบตัวของพระเอกจะมีเรื่องของปีศาจ นักปราบมาร พระเจ้า ฯลฯ เข้ามาเกี่ยวข้อง

แต่ถึงอย่างงั้นเนื้อเรื่องก็ยังจะพยายามให้มันดูโรแมนติกอยู่บ้าง เลยให้พระเอกกับนางเอกเคยเจอกันมาก่อน และมีสัญญากันเอาไว้ แต่พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง พระเอกมันดันจำไม่ได้ซะอย่างงั้น 555+ แต่ถึงจะจำไม่ได้ พระเอกก็ยังทำดีกับนางเอกล่ะนะ

รวมๆแล้วก็เลยเป็นเรื่องแนวธรรมดาทั่วไปครับ สบายๆ เหมาะสำหรับอ่านคลายเครียด หรือฆ่าเวลายามไม่มีอะไรทำ

ส่วนเรื่องการแปลในเรื่องนี้ต้องบอกว่าคนแปล ค่อนข้างมีฝีมืออยู่บ้าง เลยแปลแนวเลิฟคอมออกมาได้เข้าถึงอารมณ์พอสมควร บทตลกก็พยายามแปลให้ตลก บทบ้าๆบอๆก็พยายามแปลให้บ้าๆบอๆ ทำให้อ่านแล้วได้ฟิลอยู่พอสมควรครับ
ความน่าสนใจ : 2/5

5/12/57

Ochite Kita Naga to Horobiyuku Majo no Kuni / ราชันตกสวรรค์กับดินแดนล่มสลาย

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 6 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ที่นี่คือโลกที่ไม่เคยว่างเว้นจากการต่อสู้ เป็นโลกที่แม่มดถูกผู้คนไล่ล่า ทอดทิ้ง บุกยึดให้แตกพ่าย แล้ววันหนึ่งก็มีเด็กหนุ่มตกลงมาจากเพดานเหนืออ่างอาบน้ำ—ตรงหน้าฮาริแทน "แม่มดแห่งป่าทมิฬ"

"อะ อะ อะ อะไรของแกเนี่ย!?"
"นม! แถมยังโคตรใหญ่!"

—อยู่ดีไม่ว่าดีผู้ชายจากต่างโลกก็โผล่มาที่ดินแดนแห่งแม่มดซึ่งรอเวลาล่มสลาย

"นะ นี่ อย่ามาขย้ำ อา หน้าอก อูว คนอื่นตามใจชอบนะ อึ้มมม!"
"โนตม โนตม โนตม!"

—ผู้ชายที่สวมเครื่องแต่งกายแปลกประหลาดคนนั้นสูญเสียความทรงจำและมีชื่อว่า "นากะ" —

"ผู้ ผู้ ผู้ชายกำลังขย้ำหน้าอกท่าน ท่าน ท่านพี่!?"
"ใจเย็นก่อนยูคิ!"

ด้วยประการฉะนี้ "เวทมนตร์" และ "อัจฉริยะในการต่อสู้" จึงได้พบกัน ฝันเฟืองแห่งโชคชะตาเริ่มหมุนกลับ! สงครามเหนือจินตนาการอันน่าหลงไหล ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้ตอนเห็นของยุ่นครั้งแรก รู้สึกว่าปกมันรกๆเละๆดี (ตอนมองผ่านๆอะนะ) ก็เลยเอามาอ่านดูคร่าวๆราวๆ 2-3 เล่ม แล้วรู้สึกว่ามันสนุกดีครับ พอได้มาอ่านภาษาไทยแบบละเอียดๆอีกรอบก็ยิ่งรู้สึกว่าใช้ได้เลย

เรื่องราวเป็นแนวตลาดเดิมๆอีกแล้วกับการที่พระเอกหลุดไปต่างโลก แล้วมี passive skill ติดตัวให้เรื่องของการปรับตัวเร็ว ไม่มีท่าทางจิตตก สิ้นหวัง หรืออยากกลับโลกเดิมใดๆทั้งสิ้นตามมาตรฐาน LN แนวหลุดไปต่างโลก

ซึ่งสถานที่ที่พระเอกหลุดไปคือดินแดนของเหล่าแม่มด ซึ่งตอนนี้กำลังถูกมนุษย์ธรรมดารุกราน และกำลังจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ เนื่องจากแม้แม่มดจะเก่งกว่า แต่จำนวนน้อยกว่า สุดท้ายเวลาต่อสู้กันก็พ่ายแพ้ในเรื่องของปริมาณอยู่ดี

ส่วนพระเอกของเราจะมีบุคลิคขี้เล่นในยามปกติ จนโดนแม่มดหลายคนดูถูกอยู่เหมือนกัน แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็คิดตอบแทนพวกแม่มดที่อุตส่าห์ช่วยเหลือเขาไว้ในเรื่องของอาหารการกินและที่พัก จึงพยายามรวบรวมข้อมูล และวางแผนการรบให้ เพื่อให้เหล่าแม่มดชนะสงครามครั้งนี้ให้ได้

ซึ่งในเล่มแรก จะมีฉากโชว์เทพเล็กน้อย ที่พระเอกกับแม่มดประมาณ 7 คน ต่อสู้กับข้าศึกกว่า 300 คนครับ พระเอกของเราจะไม่เวอร์ พลังรบสูงปรี้ดแบบเรื่องอื่นๆ แต่เป็นยอดนักวางแผนตัวฉกาจ ศึกษาเวทมนต์ที่แม่มดแต่ล่ะคนถนัด แล้วเอามาใช้ร่วมกันเพื่อให้เกิดผลสูงสุด รวมทั้งกลยุทธ์ต่างๆของสามก๊กก็ถูกนำมาใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น "เมืองร้าง" หรือการโจมตีด้วยไฟ ฯลฯ

และก็ทิ้งท้ายเล่ม1เอาไว้ที่ว่าฝั่งมนุษย์ธรรมดาเตรียมยกทัพใหญ่กว่า 2,000 คน มาโจมตีซ้ำ โดยฝ่ายแม่มดก็รีบมาป้องกันป้อมของตัวเองกันแล้ว ซึ่งมีจำนวนไม่ถึง 20 คน แต่ถึงอย่างงั้นพระเอกก็ยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย พร้อมกับบอกว่า เขาคิดแผนเอาไว้แล้วซะด้วย

เรียกได้ว่า ใครที่ชอบแนวศึกสงคราม โดยเน้นที่การวางแผนสู้กัน น่าจะถูกใจเรื่องนี้ทีเดียวครับ เพราะเป็นการเปิดเรื่องโดยใช้แนวตลาด แต่พอหลังจากจุดเปิดเรื่องแล้ว ผู้เขียนกลับสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้เรื่องของตัวเองโดดเด่นขึ้นมาเหนือเรื่องอื่นได้อย่างสวยงาม

ข้อเสียมีแค่เรื่องตัวละครเนี่ยละ ดูเหมือนคนเขียนกับคนวาดภาพประกอบจะไม่ได้ปรึกษากันก่อนใช่มั้ย 555+ ตัวละครที่บรรยายว่าหน้าอกไม่ค่อยมี ยังใหญ่ราวๆคัพ B เลยมั้ง พวกตัวละครตัวอื่นๆที่บรรยายว่าหน้าอกใหญ่ เลยต้องวาดให้ใหญ่กว่านั้นอีก ไปๆมาๆเลยใหญ่กว่าหัวไปเยอะเลย 555+
ความน่าสนใจ : 5/5

4/12/57

Shuraba Lovers! / สับรางสลับรัก!

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Love Comedy
จำนวนเล่ม : 11 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ด้วยความมุ่งมั่นที่ "ไม่อยากให้เด็กสาวเกลียด!" ยางิโมะโตะ คาซุฮิโระ นักเรียนชายมัธยมปลายจึงเล่นละครเป็น "คนดีของทุกคน" เรื่อยมา ผลลัพธ์คือ ไม่สามารถหลุดพ้นจากการเป็นคนดีจนถูกติดฉลากว่า "ประวัติชีวิตที่ปราศจากแฟน = อายุ" แต่ทว่าในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนเขาบ้างจนได้

"ฉันมีเรื่องจะขอร้องคาซุฮิโระคุงหน่อย...ช่วยมาเป็นแฟนฉันได้มั้ย?" (by เพื่อนร่วมชั้น)

"นี่คาซุ นายมาเป็นแฟนฉันทีละกัน" (by เพื่อนสมัยเด็ก)

แถมฤดูใบไม้ผลิยังมาทีเดียว 3 ครั้งรวดเลย!? แต่ดูท่าทางพวกเธอจะมีต้นสายปลายเหตุอยู่...!?

เรื่องราวรักขำขันแนววุ่นๆ ที่มี "ศึกชิงหนุ่ม" เล็กน้อย เปิดฉากแล้ว!!...นี่เป็นการจับปลาสองมืออย่างนั้นเหรอ?
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นเลิฟคอมยุคเก่า(ดูจากวันที่เขียนก็ค่อนข้างเก่าอยู่นะ 3-4 ปีก่อนแน่ะ) ที่ใช้จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เป็นการแกล้งเป็นแฟนกัน ด้วยเหตุผลบางอย่างครับ ซึ่งสมัยก่อนเป็นพล็อตที่มีความนิยมพอสมควร แต่สำหรับ LN ที่มี LC ในไทยแล้วรู้สึกจะยังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นะ

เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันจะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นไปอีกหน่อย ด้วยการให้พระเอกแกล้งเป็นแฟนกับผู้หญิง 3 คนรวด ซึ่งถ้าเป็นแฟนกันจริงๆมันก็คงเป็นเรื่องที่เลวใช้ได้เลย แต่เพราะเป็นการแกล้งเป็นแฟนเฉยๆ ก็เลยไม่รู้สึกผิดอะไรเท่าไหร่ แม้ว่าพระเอกมันจะไม่รู้ว่าสาวๆแกล้งให้เขาเป็นแฟนกับเธอ เพราะแอบชอบจริงๆเลยใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง หรือตอนแรกมีความจำเป็นที่จะต้องแกล้งเป็นแฟน แต่ไปๆมาๆกลายเป็นชอบจริงๆ

ความผิดพลาดของพระเอกในเรื่องมีแค่อย่างเดียวก็คือ การที่มันไม่ยอมบอกสาวๆว่านอกจากเธอแล้ว เขาแกล้งเป็นแฟนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่อีก ปัญหาก็เลยเกิดขึ้นมากมายครับ เรียกว่าใช้คอนเซ้ปที่ว่า เริ่มต้นด้วยการโกหกก็เลยต้องพยายามโกหกไปให้ตลอดนั่นแหละ

รวมแล้วก็เป็นเรื่องที่เขียนใช้ได้อยู่ครับ อ่านเพลินๆได้เรื่อยเปื่อย ประกอบกับการเอานิยายเก่าเข้ามาในช่วงที่แนวตลาดมันเบนเข็มไปทางอื่นแล้ว ทำให้เรื่องที่น่าจะเคยเป็นแนวตลาดในอดีต มันไม่ใช่ตลาดในปัจจุบัน จึงพอจะเปลี่ยนรสชาติความจำเจไปได้บ้าง
ความน่าสนใจ : 3/5

3/12/57

Magika no Kenshi to Shoukan Maou / จอมดาบมนตรากับราชาอัญเชิญ

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : 7 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : คาซึกิ เป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาดาบ แต่กลับได้รับรอยปริศนา (เอนิกม่า) จากเทพมารที่สามารถเรียกใช้เวทมนตร์อัญเชิญได้ เขาจึงต้องเข้าเรียนในภาควิชาเวทของวิทยาลัยอัศวินแห่งชาติ ทั้งที่ควรจะต้องสืบทอดเพลงดาบสายฮายาชิซากิ แต่เขากลับต้องเริ่มฝึกฝนเวทมนตร์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ในภาควิชาเวทที่มีแต่ผู้หญิง คานาเอะ น้องสาวของคาซึกิและเป็นประธานนักเรียนภาควิชาดาบ เธอไม่เห้นด้วยที่คาซึกิต้องเข้าไปเรียนในภาควิชาเวท แถมดูเหมือนจะไม่พอใจที่ประธานนักเรียนภาควิชาเวทเข้ามาตีสนิทกับคาซึกิเสียด้วย....!?

คาซึกิจึงถูกกระหนาบด้วยสองภาควิชาที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน!

ตั้งเป้าไปที่รอยศักดิ์สิทธิ์(สติกม่า)ซึ่งเป็นหลักฐานของการเป็นนักเวทอัญเชิญ ลานประลองประจำโรงเรียนที่ผสมผสานระหว่างดาบกับเวทมนตร์ได้เปิดม่านขึ้นแล้ว ณ บัดนี้!!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นแนวตลาดอีกเรื่องนึงที่ผสมผสานความเป็นตลาดหลายๆอย่างเอาไว้ด้วยกันครับ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวที่วางบทไว้ว่า "เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น" ที่มีสิทธิ์.....บลาๆๆ พระเอกของเราก็จะเป็นผู้ชายคนเดียวที่ดันทะลึ่งมีสิทธิ์ของผู้หญิง อย่างในเรื่องนี้ ที่ว่าผู้หญิงเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นนักเวท พระเอกมันก็ดันเป็นนักเวทชายคนเดียวได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สิ้นคิด เอ๊ย เงื่อนไขที่ง่ายที่สุดในการแต่งเรื่องแนวฮาเร็มนั่นเอง เสร็จแล้วก็ตามสูตรสำเร็จ แนวตลาดในรั้วโรงเรียน พระเอกมันก็ต้องไปอยู่ในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยสาวๆ แค่นั้นยังไม่พอ ถ้าบางเรื่องกะให้ฮาเร็มง่ายกว่านั้น ก็ให้อยู่ในหอหญิงมันซะเลย

ซึ่งในเรื่องนี้ก็ครบสูตรเลยครับ 555+ โดยใช้ข้ออ้างว่าเพื่อจะได้จับตาดูพระเอกง่ายขึ้น เมินความเป็นจริงที่ว่าอาจารย์ผู้ชายก็มีไม่ใช่เรอะ ถ้าอยากจับตาดูขนาดนั้น ไปอยู่กะอาจารย์ซะเลยเซ่!!!

นอกจากนั้น ในเรื่องยังมีอีกหนึ่งแนวตลาดที่ว่า ถ้าในโลกนี้แบ่งคนออกเป็น 2 ประเภท แต่ล่ะคนจะเป็นได้แค่อย่างเดียว พระเอกมันก็เหมาเรียบทั้ง2ฝั่งเลยครับ เช่น ถ้าโลกนี้แบ่งจอมเวทเป็นเวทขาว และเวทดำ พระเอกมันก็จะใช้ได้ทั้ง 2 เวท ถ้าโลกนี้แบ่งเป็นจอมเวทกับนักดาบ พระเอกมันก็จะโชว์เหนือ เป็นนักดาบเวทมนต์ อะไรเทือกนั้นเป๊ะ เพื่อเสริมความเทพให้กับพระเอก ให้ง่ายต่อการเขียนบทแอคชั่นนั่นเอง

แล้วเรื่องนี้ก็วางบทให้มันฮาเร็มยิ่งกว่านั้นเข้าไปอีก ด้วยการที่ว่า พระเอกได้รับการถ่ายทอดพลังมาจากเทพ แต่เงื่อนไขของเทพตนนั้นคือจะใช้พลังได้ พระเอกต้องสร้างฮาเร็มซะก่อน 555+ แล้วดึงพลังของสาวๆในฮาเร็มมาใช้ ซึ่งในแง่นี้มันก็ดีกว่าพระเอกแนวแอคชั่นฮาเร็มบางคนล่ะนะ ที่มุดใต้กระโปรงผู้หญิงตลอด เรื่องนี้มันยังสู้เองได้บ้าง

เนื้อเรื่องรวมๆแล้วก็ตามมาตรฐานแนวแอคชั่นแฟนตาซีในรั้วโรงเรียนอย่างที่ทุกๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดีครับ ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างไปจากเรื่องอื่นสักเท่าไหร่ จนไม่รู้จะพูดอะไร คาแรคเตอร์ก็เดิมๆล้วนๆ สาวซึน สาวคูล คุณพี่สาวชอบแกล้ง คุณน้องสาวขี้อ้อน บลาๆๆ ไม่มีคาแรคเตอร์เซอร์ไพร์สที่อ่านแล้วรู้สึกว่า โอ๊ะ ตัวละครหญิงแนวนี้ไม่ค่อยเห็นใน LN นะเนี่ย อะไรประมาณนั้นไม่มีเลย

จุดที่น่าสนใจมีแค่ว่า เรื่องนี้จะโยงเข้ากับตำนานเทพ และปีศาจต่างๆครับ คนที่ชอบเรื่องแนวตำนานเทพมารก็คงจะสนุกอยู่บ้างล่ะ เนื่องจากเวทอัญเชิญในเรื่อง จะเป็นการอัญเชิญเทพ หรือปีศาจที่ผู้ใช้ทำพันธสัญญาด้วยออกมา ซึ่งบอสในเล่มแรกก็ปรากฎตัวออกมาเป็นเทพอสูรโลกิที่ทุกๆคนคุ้นเคยกันดีนั่นเอง เวลาพูดถึงตำนานเทพแห่งยุโรปเหนือ ฝั่งตัวร้ายมักจะไม่พ้นหมอนี่ล่ะนะ

ปัญหาใหญ่สำหรับคนที่เก็บสะสมน่าจะมี 2 อย่างคือสนพ.ชอบดอง แล้วลอยแพเนียน กับอีกอย่างคือ หน้าปกเรื่องนี้ค่อนข้างโชว์เนื้อหนังของสาวๆ ทำให้เก็บลำบาก หากพ่อแม่พี่น้องมาเจอเข้าก็สนุกล่ะ 555+
ความน่าสนใจ : 3/5

1/12/57

Shinmai Maou no Testament / น้องสาวมือใหม่ของผมเป็นจอมมาร

สำนักพิมพ์ : Luckpim
แนวเรื่อง : Fantasy (18+)
จำนวนเล่ม : 6 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : “อยากได้น้องสาวมั้ย?”  คือประโยคที่ โทโจ จิน กล่าวแก่ลูกชาย บาซาร่า ก่อนที่เขาจะพาสาวน้อยสองคนเข้ามาในบ้าน จิน บอกแก่ บาซาร่าว่า ทั้ง2คือ มิโอะ และ มาเรีย ลูกสาวของผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วย

ทว่าทั้งหมดนั่นเป็นแค่หน้าฉาก เบื้องหลัง มิโอะคือบุตรีของจอมมารองค์เก่า และ มาเรียคือซาคิวบัสผู้ทำหน้าที่องค์รักษ์ของเธอ ที่ตั้งใจจะชิงบ้านของ บาซาร่า มาเป็นที่หลบภัย

โชคร้ายที่ บาซาร่า กลับเป็นหนึ่งในผู้ที่พลังแห่งผู้กล้า เขาจึงสามารถขับไล่พวกเธออกไปได้ แต่เมื่อรู้ถึงโศกนาฏกรรมที่ มิโอะ ต้องพบเจอ บาซาร่า ก็ตัดสินใจที่จะปกป้องน้องสาวจอมมารของเขาแม้ว่าจะต้องเป็นศัตรูกับโลกทั้งใบก็ตาม
ความเห็นส่วนตัว : ถึงจะแปะว่า 18+ แต่จริงๆมันก็ไม่ใช่หรอกนะครับ ระดับความหื่นอยู่พอๆกับเรื่อง คำสาปสุดซี้ด นั่นแหละ เผลอๆจะน้อยกว่าด้วยมั้ง เพราะเรื่องนั้น พระเอกมันทิ่มข้างล่าง แต่เรื่องนี้พระเอกมันแค่จับข้างบนเอง 555+

โครงเรื่องเป็นแนวผู้กล้าจอมมารอีกแล้ว แต่เรื่องนี้หลังจากอ่านดูแล้ว รู้สึกเหมือนคนเขียนแต่งตามกระแสเฉยๆ แล้วยัดฉากหื่นๆเข้ามากันขายไม่ออก ผู้กล้าจากเดิมคือสัญลักษณ์ของคนธรรมดาที่ฝ่าฟันเรื่องราวต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้คนจนได้รับขนานนามว่าผู้กล้า กลับกลายเป็นเหมือนอาชีพๆนึงซะงั้น มีหมู่บ้านผู้กล้าอีกต่างหาก แถมเด็กที่เป็นลูกของผู้กล้า ก็จะได้อาชีพผู้กล้าแปะติดมาด้วยเป็นออฟชั่นเสริม มันอะไรกันเนี่ย orz คุณค่าของคำว่าผู้กล้าน่ะ มันคือการที่ถูกผู้คนเรียกว่าผู้กล้านะเฟ้ย ไม่ใช่ยกตัวเองเป็นผู้กล้าซะเอง

นางรองเบอร์1ก็วางบทให้เป็นซัคคิวบัสอีกต่างหาก ปีศาจแห่งความฝัน ที่ถ้าปรากฎใน LN ยุคปัจจุบัน มันจะเป็นสัญลักษณ์ของความหื่นไปอย่างช่วยไม่ได้ เรียกว่าเตรียมไว้สำหรับหื่นเพียวๆ บทอื่นนอกจากหื่นแทบไม่มี 555+

แต่ว่า การวางโครงเรื่องแนวหื่น แต่ดันไม่กล้าเดินสายมืดอย่างเต็มตัว ทำให้บางครั้งก็อดรู้สึกไม่ได้เหมือนกันว่าพระเอกมันเป็นเกย์รึเปล่า 2สาวเป็น "คนอื่น" ที่มาอยู่บ้านเดียวกันเฉยๆ แถมยังยั่วยวนพระเอกกันซะขนาดนั้น พระเอกมันกลับไม่ทำอะไรเลย กับยัยซัคคิวบัสยังไม่เท่าไหร่ แต่กับนางเอกเนี่ย พระเอกใช้แค่มือกับนิ้ว ทำให้นางเอกเสร็จสมอารมณ์หมายไป 9 น้ำ แล้วมันก็หยุดซะงั้น ไม่ทำอะไรต่อ ปล่อยให้นางเอกนอนหมดแรงไป

แกไม่แข็งเรอะ!!!!
หรือว่าไม่มี!!!!

เฮ้อ เพลียกับไอ้พระเอกเกย์ๆแบบนี้จริงๆเลย

เอาล่ะ จบประเด็นเรื่องหื่นๆไว้แค่นี้ ต่อมา ในส่วนของเรื่องราวนั้น คนเขียนเดินเรื่องได้ค่อนข้างธรรมดาครับ ปมต่างๆยังไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่ นอกจากแนวโน้มว่าตัวละครหญิงจะแห่กันออกมาเพิ่มเรื่อยๆทุกเล่ม ให้พระเอกล้วงเล่นแล้วก็หยุดมือเหมือนเล่มแรกนี่แหละ 555+ เลยอ่านแบบไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่องมากก็ได้ มันแทบไม่มีอะไรเลยจริงๆ เนื้อเรื่องมันมีแค่ในปกหลังนั่นแหละ

แถม เปิดมา 3 หน้าแรก มันก็ลอก เอ๊ย เอาแรงบันดาลใจมาจากเรื่องอื่นแล้วครับ ทั้งบริบท เหตุการณ์ บทสนทนา คู่สนทนา บลาๆๆ เหมือนกันเยอะมาก แต่นึกไม่ออกแฮะว่าลอก เอ๊ย เอาแรงบันดาลใจมาจากเรื่องไหน
ความเห็นส่วนตัว : 2/5