23/3/59

Sabishigariya no Lolyferatu / โลกพิลึกของโลลิเฟอราตู

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Fantasy Comedy
จำนวนเล่ม : 1 เล่มจบ
เรื่องย่อ : โรงเรียนของพวกผมมีเจ้าหญิงผีดูดเลือดสุดพิสดารอาศัยอยู่ โทคิวะ โทกะ นักเรียนหญิงม.ปลายที่มีเรื่องเครียดได้พบเจอกับเรื่องประหลาดที่ตึกเรียนเก่าตอนกลางดึก...

"เจ้าเสียมารยาท มีเหตุผลอะไรถึงมาที่นี่"
"มาทำโอเด้ง"
"โอเด้ง?"

เด็กเกเรสุดแสบ หุ่นยนต์เด็กสาวแนวลูกหมา และผม "ศัตรูของผู้ผดุงความยุติธรรม"

นี่คือเรื่องราวของเจ้าหญิงดูดเลือดผู้โดดเดี่ยวกับพวกผมที่ไม่ธรรมดา ร้อยเรียงเป็นดนตรีประชันคอนแชร์โต้

"ละ...เลิกแกล้งกันได้แล้ว...!"

ไม่สิ น่าจะเป็นเพลงตลกมากกว่า ผมว่านะ

ผลงานแนวใหม่สไตล์อมยิ้มโลลิป๊อบช่วงโพล้เพล้ของซาการะ โซ ผู้แต่ง "องค์ชายจิตป่วนกับน้องเหมียวยิ้มยาก"
ความเห็นส่วนตัว : อ่านเรื่องย่อแล้วคงสัมผัสอะไรไม่ได้นอกจากความตลาดสินะครับ แต่มันก็แหงละเนอะ ก็มาเป็นเซ็ตเลยนี่นา เรื่องราวในรั้วโรงเรียน สาวน้อยผีดูดเลือด สาวน้อยหุ่นยนต์ ไอ้หนุ่มจูนิเบี้ยว มาครบเลยนี่นา 555+

แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นครับ จริงอยู่ว่า เรื่องราวที่ใช้มันมีอยู่แค่นี้ แต่การถ่ายทอดเรื่องราวนั้นออกมา ผู้เขียนให้วิธีการเขียนเป็นมุมมองของตัวละครแต่ละตัว โดยใช้คอนเซ็ปว่า ความจริงของแต่ละคนนั้น เป็นความจริงเดียวกันรึเปล่า ซึ่งค่อนข้างจะปรัชญาพอสมควร

อธิบายคร่าวๆก็เป็นแนวคิดที่ว่า ความจริงในมุมมองของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน และอาจจะมีส่วนที่บิดเบือนออกไปจากความจริงที่แท้จริงนั้น มากน้อยแค่ไหนแตกต่างกันด้วย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้แตกต่างกันนั้น อาจจะเป็นเพราะอคติของแต่ละคน หรือปัญหาด้านการถ่ายทอด หรืออื่นๆ

ในส่วนของอคติก็เช่น ถ้าเราเป็นเด็กเรียน เวลาเห็นพวกเด็กเกเรหลังห้องรวมกลุ่มกันทำอะไร เราก็อาจจะมองพวกเขาในแง่ลบไปล่ะ ส่วนพวกเด็กเกเรเวลาเห็นเด็กเรียนมองมา บางทีเขาอาจจะมองผ่านเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร แต่พวกเด็กเกเรก็จะคิดไปว่าโดนมองด้วยสายตาดูถูกซะอย่างงั้น

ส่วนปัญหาด้านการถ่ายทอดก็เช่น แม้ว่าเราจะมีเจตนาอย่างหนึ่ง แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ตัวผู้ฟังกลับได้รับสารจากเราไปไม่ตรงกับที่เราต้องการ หรือบางประโยคเราเข้าใจว่าเราพูดออกไปแล้ว แต่เอาเข้าจริง เราแค่คิดอยู่ในใจโดยไม่รู้ตัว แต่พูดออกไปครึ่งเดียวซะนี่ แบบนี้จะเข้าใจไม่ตรงกันก็ไม่แปลก

ดังนั้น แม้เรื่องราวที่ใช้จะค่อนข้างสั้น แต่เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวที่ว่าในมุมมองของตัวละครทีละตัว แบ่งเป็นตอนๆ (ตอนละคน) เรื่องราวกลับแตกต่างกันออกไป สุดท้ายแล้ว เมื่อผู้อ่าน อ่านเรื่องราวของทุกคนจนจบเล่ม ผู้อ่านจะสามารถสรุปได้รึเปล่า ว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นยังไง และใครบิดเบือนความจริงของเรื่องราวไปโดยไม่รู้ตัวที่จุดไหนบ้าง ก็เป็นสิ่งที่น่าคิดอยู่เหมือนกัน ไหนจะเรื่องที่ว่าเป็นการบิดเบือนเข้าข้างตัวเอง หรือทำร้ายตัวเองอีก นอกเหนือจากความแฟนตาซีอันแสนจะลึกลับและสนุกสนาน

สุดท้ายผู้เขียนทิ้งท้ายไว้ในบทส่งท้ายว่า
ตอนที่มีแอปเปิ้ลสีแดงวางอยู่บนโต๊ะ ทุกคนมองแอปเปิ้ลที่มีอยู่จริงๆรึเปล่า และสีแดงที่เราเห็น เป็นสีแดงเดียวกับที่คนอื่นเห็นรึเปล่า

โดยรวมแล้วเลยเป็นเรื่องที่แหวกแนวจากส่วนใหญ่อย่างที่เห็น ค่อนข้างจะเหมาะกับคนที่ชอบอ่านอะไรจริงจัง เพราะถ้าอ่านแล้วคิดตามจะมีอะไรน่าสนใจอยู่มากมาย แต่แนะนำให้อ่านรวดเดียวเลยนะ ถ้าอ่านทีละตอนๆ หรืออ่านทีละช่วงๆ บางทีมันจะลืมน่ะ ลืมเนื้อเรื่องก่อนหน้าไป ว่าในเหตุการณ์เดียวกันนี้ แต่ในมุมมองของตัวละครตัวนั้น เขาคิดอะไรอยู่ เขาเข้าใจเรื่องราวแบบไหน แล้วตัวละครตัวนี้ เข้าใจแบบเดียวกันรึเปล่า

แต่ถ้ากะอ่านแบบลันล้า มันก็ได้อยู่เหมือนกันนะ คนเขียนสอดแทรกฉากที่น่าจะถูกใจคนที่ไม่ชอบคิดเยอะมาเหมือนกัน

เรียกว่า ไม่ว่าจะเป็นคนคิดมาก หรือคิดน้อย ก็สามารถสนุกไปกับเรื่องราวได้ ซึ่งความสนุกที่ได้นั้น จะเป็นความสนุกเดียวกัน ที่มาจากเรื่องราวเดียวกันรึเปล่า........ก็ไม่รู้สินะ
ความน่าสนใจ : 5/5