30/11/57

Marginal Operation / ปฏิบัติการส่งนีทไปเรียนรบ

สำนักพิมพ์ : Dexpress
แนวเรื่อง : Action Drama
จำนวนเล่ม : 5 เล่มจบ
เรื่องย่อ : บริษัททหารเอกชน คืองานใหม่ที่อาราตะ หนุ่ม NEET วัย 30 ได้เลือก

อาชีพทหารรับจ้าง จากโตเกียวอันคุ้นเคย สู่แผ่นดินไกล ณ เอเซียกลาง อัจฉริยะภาพทางด้านการทหารของอาราตะที่เคยหลับใหล ถึงเวลาได้เบ่งบาน

ทว่าความมุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้ได้ก่อนสิ่งใด คือการทำให้ทั้งหมู่บ้านถูกทำลายหมดสิ้น เฝ้ามองมนุษย์ตัวเป็นๆหลั่งเลือดเชือดเนื้อในสนามรบผ่านมอนิเตอร์ อาราตะที่ก้าวผ่านความเจ็บปวดนั้นจะตัดสินใจอย่างไร ประวัติศาสตร์การต่อสู้ครั้งใหม่ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นนิยายที่ไม่อยากจะเรียกว่า Light Novel สักเท่าไหร่ เพราะเต็มไปด้วยดราม่าและแง่คิดต่างๆ จนน่าเอาไปทำหนังซีรีย์ได้เลย

ในเรื่องพระเอกเป็นตาลุงวัย30ที่เป็น NEET เพราะตกงาน แล้วหางานทำไม่ได้ จนกระทั่งไปเจองานแปลกๆที่รายได้สูง พระเอกจึงโดดเข้าคว้าทันที และมาปรากฎว่าเป็นบริษัททหารรับจ้าง สุดท้ายพระเอกก็เลยโดนส่งไปฝึกฝน โดยแยกเป็นฝึกพื้นฐานก่อน จนกระทั่งบริษัทเห็นว่าพระเอกเก่งด้านวางแผนมาก จึงส่งไปเป็นกุนซือ(ฮา) หรือศัพท์สมัยใหม่ใช้คำว่าเสนาธิการล่ะมั้ง (ในเรื่องใช้คำว่า OO) ประจำตามสนามรบต่างๆ

ระหว่างนั้นก็จะมีดราม่าต่างๆถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พระเอกไม่เก่งภาษาอังกฤษจนกลายเป็นปัญหาในการใช้ชีวิต ปัญหาระหว่างฝึกฝนฝีมือ สภาพจิตใจ การกินอยู่ สภาพความเป็นจริง(ในโลกเรานี่แหละ) ที่แสนจะยากลำบากถูกถ่ายทอดออกมาในนิยายเรื่องนี้เป็นอย่างดี และก็เป็นเหตุผลที่ว่า มันเอาไปทำหนังซีรีย์ได้นี่แหละ เนื้อเรื่องทำเนียนมาก ไม่ซ้ำซาก กากๆ ตลาดๆซะด้วย

การเดินเรื่องจะเป็นรูปแบบเหมือนเราอ่านสมุดบันทึกของพระเอก ดังนั้นเรื่องราวในส่วนไหนที่พระเอกจำไม่ได้ หรือไม่ค่อยอยากพูดถึง ก็จะเขียนไว้น้อยมาก บางเรื่องตัดบทด้วยคำว่า "เรื่องนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน" แล้วก็ข้ามไปเลยก็มีเหมือนกัน 555+ ซึ่งรูปแบบนี้ ทำให้อรรถรสในการอ่านที่จะต้องลุ้นว่าตัวเอกจะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้หรือไม่ ไม่เกิดขึ้น (ถ้ามันผ่านไปไม่ได้ แล้วใครเขียนสมุดบันทึก) แต่จะกลายเป็นรสชาติของการลุ้นว่า พระเอกผ่านไปได้อย่างไร แทน ซึ่งส่วนมากสไตล์นี้ ถ้ามีคนต้องสละชีวิต มันจะกลายเป็นคนใกล้ตัวพระเอกแทนล่ะนะ 555+

ในส่วนของสนพ.ไทย ราคาจะค่อนข้างแพง แต่เล่มค่อนข้างบางจนน่าเสียดาย แม้จะมีข้ออ้างว่า เขาพิมพ์รูปภาพในเรื่องเป็นรูปสีทั้งเล่ม (ราวๆ 5รูปมั้ง) ก็ไม่มีอย่างอื่นครับ บางเล่มสันกาวไม่ดีด้วย เข้าเล่มไม่ค่อยดี กระดาษหลุดเป็นแผ่นๆเลยก็มี อย่างในกลุ่มของผมมีคนซื้อเรื่องนี้ 2 คน คนนึงหลุดช่วงท้ายเล่ม4-5หน้า ส่วนอีกคนซวยหน่อย คือหลุดไปเลย กระจายเลยแหละ ว่างั้นเถอะ 555+ แต่ก็คงเป็นส่วนน้อยครับ ถ้าเป็นกันเยอะ คงด่าสนพ.กระจายไปแล้วล่ะมั้ง
ความน่าสนใจ : 5/5

29/11/57

Strike the Blood / ราชันย์โลหิตรัตติกาล

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Fantasy Action Comedy
จำนวนเล่ม : 11 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ‘สายเลือดแท้ลำดับที่สี่’ ―เป็นแวมไพร์ที่ควรจะมีตัวตนอยู่แค่ในตำนาน กระนั้นกลับมีรายงานว่าแวมไพร์มายาผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกและลือกันว่า บงการอสูรรับใช้ทั้งสิบสองตนที่ได้สร้างความวิบัติไปทั่วทุกหนทุกแห่งนั้น ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ญี่ปุ่น รัฐบาลและองค์กรราชันราชสีห์ได้ส่งนักปราบมารที่มีนามว่า ‘คนทรงดาบ’ มาเพื่อที่จะจับตามองและกำจัด ‘สายเลือดแท้ลำดับที่สี่’

แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ฮิเมรางิ ยูกินะที่เป็น ‘คนทรงดาบ’ ฝึกหัดจึงถูกรับเลือกให้เป็นผู้จับตาดูที่ว่านั้นเสียได้

ยูกินะได้เดินทางมายังเขตคุ้มครองเผ่าปีศาจ ‘เมืองอิโตงามิ’ พร้อมด้วยหอกพลังวิญญาณอันทรงพลังสำหรับรับมือกับสายเลือดแท้โดยเฉพาะ ทว่าตัวตนที่แท้จริงของอาคัตสึกิ โคโจ เด็กหนุ่มผู้เป็น ‘สายเลือดแท้ลำดับที่สี่’ ที่เธอได้พบนั้นคืออะไรกันแน่―!

นี่คือเรื่องราวแอคชั่นแฟนตาซีในโรงเรียนที่จะเปิดฉากขึ้นบนเกาะเทียม กลางมหาสมุทรเขตร้อน !
ความเห็นส่วนตัว : ถ้าจำช่วงเวลาไม่ผิด ในไทยวางแผงเล่ม1หลังจากที่ Anime ที่ญี่ปุ่นฉายสินะครับ ดังนั้นหลายๆคนคงรู้จักเรื่องนี้กันดีอยู่แล้วล่ะ ตามนโยบายที่ว่า Anime ทำเพื่อโปรโมต LN หากคนดูแล้วสนใจ ก็หลอกล่อให้ไปตามซื้อ LN กันต่อเอง 555+

และทุกคนที่ดูก็คงจะรู้กันอยู่แล้วด้วยว่ายัยนางเอกเรื่องนี้เป็นจอมแย่งซีน พร้อมวลีเด็ด "ไม่ค่ะรุ่นพี่ นี่เป็นการต่อสู้ของพวกเรา" แล้วก็แย่งพระเอกโชว์เทพซะหมด ขนาดปก LN ทุกเล่ม เป็นสิบเล่มแล้วก็ยังมีแต่เธอนี่แหละที่ขึ้นปก กะให้คนอ่านเบื่อหน้ากันไปข้าง เป็นจอมแย่งซีนตัวจริงแท้แน่นอน 555+ ไม่เชื่อเซิจเน็ตด้วยคำว่า "iie senpai" ดูสิ หน้าเธอโชว์หราเลย

ในส่วนของเนื้อเรื่องก็จะเป็นเรื่องราวของแวมไพร์สายเลือดแท้คนนึงที่ไม่ยอมดูดเลือดและอยากอยู่ร่วมกับมนุษย์ กับมนุษย์ที่มีดวงดามองเห็นการดับสูญของสรรพสิ่ง เอ๊ย ผิดเรื่อง >.< กับมนุษย์ที่เป็นนักปราบมารครับ เวทีของการต่อสู้จะอยู่ที่เมืองที่ผู้เขียนสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นเกาะเทียมกลางทะเล ดินแดนที่มนุษย์และอมนุษย์อยู่ร่วมกันได้นั่นเอง

การเดินเรื่องจะใช้สไตล์คอเมดี้สลับกับฉากแอคชั่นแฟนตาซี ที่ทำได้อย่างลงตัว สลับสับเปลี่ยนอารมณ์ของคนอื่นโดยไม่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน จนทำให้ LN สามารถออกอย่างต่อเนื่องได้เกินสิบเล่มโดยไม่โดนตัดจบไปซะก่อน (ฮา) แม้ปมต่างๆจะเดาง่ายไปหน่อยสำหรับผู้ที่มีชั่วโมงบินสูง แต่โดยรวมแล้วก็ยังอ่านให้สนุกได้อยู่ครับ ไม่ถึงกับน่าเบื่อสักเท่าไหร่นัก

ประกอบกับโครงเรื่องเอง สไตล์แวมไพร์ที่เน้นแอคชั่นเป็นหลัก เซอร์วิสเป็นรองแบบเรื่องนี้ยังมีอยู่น้อยในประเทศไทย (ปกติพอพูดถึงแวมไพร์ทีไร โชว์หื่นทุกที 55+) ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจทีเดียวครับ

ในส่วนของการแปล ผู้แปลแปลออกมาได้ดีจนน่าแปลกใจว่าเป็นหนังสือของสนพ.นี้ (เอ๊ะ >.< ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบรรยาย ที่ใช้ศัพท์ได้แสดงถึงคุณวุฒิของผู้แปลเลยทีเดียว เดาว่าน่าจะอายุ 30+ แล้วล่ะมั้ง เผลอๆคงทำงานเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย ไม่น่าจะเป็นเด็กๆ ที่อยากใช้ LN เป็นสถานที่ลองวิชา จุดผิดพลาดมีเล็กน้อยมาก นั่นคือในส่วนของบทสนทนา บางครั้งก็ยังเผลอใช้ถ้อยคำแบบเป็นบทบรรยายอยู่ ก็เลยรู้สึกขัดๆนิดหน่อย แต่ก็เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่สามารถมองข้ามได้ครับ
ความน่าสนใจ : 5/5

28/11/57

Seiken Tsukai no World Break / World Break เทพนักดาบข้ามภพ

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Fantasy 
จำนวนเล่ม : 9 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : โมโรฮะ เด็กหนุ่มผู้ก้าวข้ามวัฏจักรมาพบกับเด็กสาวสองคนซึ่งเป็นบุคคลที่รักยิ่งในชาติก่อนพร้อมกัน หนึ่งคือซาสึกิ เด็กสาวผู้มีความทรงจำของน้องสาวแท้ๆ และเป็นองค์หญิงนักดาบผู้ตกหลุมรักพี่ชายในชาติก่อน และชิสึโนะ เด็กสาวผู้เคยร่วมต่อสู้ในฐานะแม่มดแห่งนรก ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างจอมราชาในชาติก่อน

โมโรฮะกำลังจะได้แสดงพลังของ "ดาบศักดิ์สิทธิ์×มนต์ดำ" ที่ได้รับสือทอดต่อจากชาติก่อนถึงสองภพ! นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โรงเรียนของเหล่าผู้กลับชาติมาเกิด

เหล่านักรบผู้เปลี่ยนความทรงจำในชาติก่อนให้กลายเป็นพลัง!

โมโรฮะกำลังเริ่มก้าวเดินบนโชคชะตาที่พิเศษยิ่งกว่าผู้ใด!! เพื่อช่วยเหลือสองเด็กสาวอันเป็นที่รักและผูกพันด้วยสายสันพันธ์นิรันดร ในโรงเรียนที่ถักทอระหว่างปัจจุบันกับอดีตชาติเข้าด้วยกัน "Sword & Sorcery" เพลิงเวทเอ๋ยจงสถิตในดาบของเรา...

ตอนนี้ เด็กหนุ่มกำลังตะลุยฝ่าชาติภพปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย!!
ความเห็นส่วนตัว : ก่อนจะอ่านเรื่องนี้ ถูกเพื่อนๆบอกมาล่วงหน้าแล้วว่าเป็นนิยายบนเวบครับ ผมก็เลยเดาการดำเนินเรื่องไว้ล่วงหน้าเลย ว่าต้องเป็นเริ่มจากเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวในชาติก่อน >> กลับมาที่ปัจจุบัน >> เข้าโรงเรียน >> เทพเพราะความทรงจำจากชาติที่แล้ว >> โดนขาใหญ่หาเรื่อง แล้วชนะมาได้ >> ต่อสู้จริงครั้งแรกแบบเวอร์ๆกับศัตรูที่ตามปกติของท้องเรื่องแล้วไม่น่าชนะ >> โดนองค์กร หรืออะไรสักอย่าง ของรัฐบาลหรืออาณาจักร ปกปิดไว้ เพราะเทพเกินไป

และพอมาอ่านเข้าจริงๆก็ตรงเป๊ะทั้งหมดเลยครับ 555+ ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ คือถ้าคำจำกัดความของมันคือ "นิยายบนเวบ" ล่ะก็ สำหรับคนที่อ่านนิยายบนเวบของญี่ปุ่นจะรู้ทันทีครับ ถ้าไม่เข้าใจล่ะก็ ลองคิดถึงเวบเด็กดีของไทยเราสิ นิยายในนั้นมันจะเป็นสไตล์เดียวกันมาเป็นแพเลยครับ และตอนนี้ญี่ปุ่นก็ก้าวข้ามกระแสนิยายเกมออนไลน์ มาสู่นิยายระลึกชาติแล้ว โครงเรื่องและเนื้อเรื่องก็เลยเป็นแบบนี้นั่นแล

ดังนั้นเรื่องนี้เลยเป็นสไตล์เดียวกับเรื่อง K&M ครับ แตกต่างกันตรงที่เรื่องนี้จะเน้นความเป็นฮาเร็ม(?) คอเมดี้มากกว่า และตามท้องเรื่อง ไม่ต้องปกปิดเรื่องที่ตนเองระลึกชาติได้ และจุดต่างที่ใหญ่ที่สุดคือ เรื่องนี้เป็นสไตล์ดาบและเวทมนต์ ในขณะที่ K&M เป็นแนวเรียลโรบอตครับ

แต่ถ้าว่ากันตรงๆ ผมชอบ K&M มากกว่านะ การระลึกชาติ มันทำให้เรามีความทรงจำของชาติที่แล้วก็จริงอยู่ แต่ถ้าพูดแบบทั่วไป มันคือการซัพพอร์ตเรื่องความรู้อย่างเดียวนี่นา ฝีมือ หรือกำลังกาย มันต้องมาจากการฝึกฝนอยู่ดี เรื่อง K&M เลยใช้ความรู้ของพระเอก + กับกันดั้ม แถมพระเอกฝึกฝนเรื่องทักษะร่างกายมาตั้งหลายปี

แต่เรื่องนี้ มันมาสไตล์พอพระเอกระลึกชาติได้ ก็จะใช้พลังของชาติที่แล้วได้เลยซะงั้น (ทั้งๆที่คนอื่นในเรื่องยังต้องฝึกใช้พลังอยู่เลย) พอมีเรื่องอื่นเป็นตัวเปรียบเทียบ รสชาติมันก็เลยกร่อยๆลงไปครับ

ขนาดการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เป็นฉากโชว์เทพ เรื่อง K&M ยังใช้กองทัพรุมเลย แล้วพระเอกก็แอบขับกันดั้มตัวนึงเข้ามาเนียนไปด้วย ในขณะที่เรื่องนี้เป็นการฉายเดี่ยวของพระเอกซะงั้น ศัตรูที่กำหนดว่าถ้าไม่ทุ่มกำลังรบเกือบทั้งประเทศจะไม่ชนะ พระเอกมันลุยคนเดียวเฉยเลย สเกลพลังมันเวอร์ไปนะเนี่ย -_-
ความน่าสนใจ : 2/5

25/11/57

Inou-Battle wa Nichijou-kei no Naka de / พลังป่วนก๊วนเหนือธรรมชาติ

สำนักพิมพ์ : Zenshu
แนวเรื่อง : Fantasy Comedy
จำนวนเล่ม : 9 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : อยู่ดีๆ เมื่อครึ่งปีก่อน สมาชิก 5 คนของชมรมวรรณศิลป์ รวมทั้งชั้นด้วยก็เกิดมีพลังพิเศษบ้าๆขึ้นมา หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องก้าวเข้าสู่การประลองพลังพิเศษสุดยิ่งใหญ่ของโรงเรียน….

ซะเมื่อไหร่ล่ะ!? “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเหรอเนี่ย” อุตส่าห์มีพลังพิเศษทั้งที แต่ชีวิตประจำวันดันสงบสุขสุดๆ ไม่เห็นมีองค์กรลับที่จะทำลายล้างโลกอะไรเลย! การประลองพลังพิเศษบ้าบออะไรก็ไม่มี! แถมยังไม่เห็นมีผู้กล้ากับจอมมารที่ไหนโผล่หัวออกมาเลย!

สุดท้าย พวกชั้นก็เลยตัดสินใจเอาพลังพิเศษชั้นเลิศนี่เอาไปใช้อะไรเรื่อยเปื่อยไปตามเรื่อง อย่างเช่น “ปลูกหนวดให้กับจ้ามังกรไฟบรรลัยกรรจ์มาละ!!” หรืออะไรอย่างนั้น แต่ชั้นน่ะ ชินกับการประลองพลังพิเศษแล้วไง เลยรู้…รู้สึกได้ถึงการต่อสู้อันแท้จริงว่ากำลังจะ…. “หา จะบ้าเรอะ?” ชีวิตที่เอาพลังของพระเจ้ามาล้อเล่นไปวันๆ

แต่ที่สุดแล้วการประลองพลังพิเศษ&เลิฟคอมเมดี้ครั้งใหม่ที่ไม่จบเพียงแค่นั้นก็กำลังจะเปิดฉากขึ้น!!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นจับฉ่ายของเรื่องอื่นๆหลายๆเรื่องครับ โดยถ้าให้พูดถึงเฉพาะเรื่องที่มี LC ในไทยแล้วล่ะก็ ส่วนที่เปิดเรื่องด้วยสไตล์ผู้มีพลังพิเศษ แต่ดันไม่มีศัตรู หรือเหตุให้ใช้พลังพิเศษ สุดท้ายแล้วก็เลยเอาพลังพิเศษนั้นมาใช้เฮฮาปาร์ตี้กันเฉยๆ เหมือนเรื่อง บันทึกอิจิโนะฯ เลย

แต่ถ้ามีแค่นั้น มันก็คงไม่มีทางพิมพ์รวมเป็นเล่มได้หรอกเนอะ เผลอๆจะโดนตราหน้าว่าก้อปเรื่องอื่นมาด้วย คนเขียนก็เลยเพิ่มคาแรคเตอร์ลงไป โดยให้พระเอกเป็นโรคจูนิเบียว แถมยังใช้เปลวไฟสีดำอีกต่างหาก พร้อมขนานนามตัวเองว่า ดาร์คเฟรมมาสเตอร์....เอ๊ย ไม่ใช่ดิ >.< นั่นมันเรื่องออริจินอล (และยังเป็นเรื่องแรกที่ทำให้คนไทยรู้จักกับคำว่าจูนิเบียวด้วยมั้ง) พลังของพระเอกคือดาร์คแอนด์ดาร์คต่างหาก เป็นเปลวไฟสีดำนั่นแล

ส่วนการเดินเรื่องก็ใช้ความเป็นจูนิเบียวของพระเอกนี่แหละเป็นหลักครับ ผสานกับการเอาพลังพิเศษมาเล่นมุก โดยมีตัวละครอื่นผลัดกันเข้าบท ตามสไตล์ของนิยายที่ตั้งใจจะเขียนเป็นเรื่องยาว เล่มแรกคือการแนะนำตัวละคร 555+ ซึ่งเผิ่นๆแล้ว ก็คล้ายๆบันทึกอิจิโนะอยู่นะ แตกต่างกันที่ว่า เรื่องนี้ตัวละครเยอะกว่า และเป็นกลุ่มตัวละครมาตรฐาน พระเอก1หน่อ รายล้อมด้วยสาวๆซะด้วย ทำให้จิ้นฮาเร็มก็ง่าย จิ้น Yuri ก็เวิร์ค เนอะ 555+

การเล่นมุกในเรื่อง จะเป็นมุกเฉพาะทางซะเยอะ โดยมากเป็นโจโจ้ล่ะนะ แล้วก็เรื่องอื่นๆประปราย ซึ่งอันนี้นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเหมือนเรื่องไหน ที่เอาการ์ตูนยุคเก่ามาเล่นมุกรัวๆ จำได้ว่าเคยอ่าน แต่นึกชื่อเรื่องไม่ออกซะงั้น orz

แต่เอาเถอะ ขนาดเรื่อง L _ _ _ Fan _ a _ _ ก็เป็นนิยายรวมมิตร ที่ฟิวชั่นหลายๆเรื่องเข้าด้วยกันเลยนี่นา แล้วยังดังด้วย เรื่องนี้จะทำบ้างก็ไม่แปลกอะไร คนน่าจะชอบเยอะซะด้วยสิ มันจับฉ่ายดี 555+  แถมตอนท้ายก็เริ่มทิ้งปมแล้วด้วย ว่ามีการปรากฎตัวของผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆล่ะ รวมถึงต้นเหตุที่ทำให้มนุษย์บางคนกลายเป็นผู้มีพลังพิเศษด้วย...คุ้นๆเนอะ เอาหน่าๆ

ดังนั้นถ้าให้พูดถึงความเป็น unique ของเรื่อง ที่ทำให้ไม่ซ้ำใครแล้ว ก็คงจะเป็นการเอาเรื่องอื่นๆมายำรวมกันแล้วลงตัวล่ะมั้ง

เอาจริงๆ อ่านๆไปเรื่อยๆ ผมยังชอบเลยนะ มันฮา 555+
ความน่าสนใจ : 2/5

24/11/57

Re:Zero kara Hajimeru Isekai Seikatsu / Re: Zero รีเซ็ตชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Fantasy
จำนวนเล่ม : Unknown
เรื่องย่อ : นัทสึกิ สุบารุ เด็กหนุ่มธรรมดา ถูกเรียกตัวไปยังต่างโลกขณะกลับจากร้านสะดวกซื้อตามรูปแบบยอดนิยมของการโดนเรียกไปต่างโลกเปี้ยบ ทว่า ไม่มีผู้ที่เรียกตนมารออยู่ที่นั่น แถมชีวิตยังตกอยู่ในอันตรายทันทีเพราะโดนกลุ่มโจรเล่นงาน สุบารุได้รับความช่วยเหลือจากสาวผมเงินปริศนา เพื่อทดแทนบุญคุณชายหนุ่มจึงช่วยเธอตามหาของที่เธอถูกขโมยไป ทว่า… ในขณะที่กำลังจะได้ของคืน ทั้งเขาและเธอกลับถูกโจมตีจนถึงแก่ชีวิต—

แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้ไร้พลังนี้จะมีความสามารถ ‘กลับจากความตาย’ เขาจึงจะต้องผ่านความตายอีกหลายหน เพื่อช่วยเด็กสาวผู้มีพระคุณออกจากชะตากรรมแห่งความตายให้ได้

ถึงเธอจะลืมฉัน แต่ฉันไม่มีทางลืมเธอหรอก
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นแนวหลุดไปต่างโลกอีกแล้ว ดังนั้นพระเอกต้องมี passive skill ในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้สูงลิ่ว ทั้งยังไม่รู้สึกตกอกตกใจกับการที่อยู่ๆตัวเองก็หลุดไปต่างโลกแน่นอน แถม พระเอกเรื่องนี้เหนือชั้นกว่านั้นอีกครับ เพราะหลังจากตัวเองหลุดมาต่างโลกแล้ว มันก็นั่งสำรวจโลกต่างมิตินี้อย่างใจเย็น ทั้งสภาพเมือง ผู้คน บลาๆๆ ถึงขนาดเข้าไปเช็คค่าเงิน ว่าใช้หน่วยเงินไหนจากร้านค้าเลยทีเดียว

นี่แกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวโลกต่างมิติเรอะ เคยมีประสบการณ์โดนโมโ_นะกิน แล้ววาบไปตามหาขนนกรึไง หรือมีงานอดิเรกไปเที่ยวโลกต่างมิติทุกวันหยุดแบบ Dog D_ _ s อืม พอก่อน เดี๋ยวหลุดไปไกล 555+

นอกจากนั้นก็ตามมาตรฐานครับ โดนอัญเชิญวาบมาต่างโลก พระเอกย่อมมีพลังพิเศษติดตัว และพลังพิเศษของหมอนี่ก็คือการเกิดใหม่เรื่อยๆนี่แหละ ถ้าพูดแบบ UQ Hol_er ก็คงเป็นการกำหนดจุดเซฟ ถ้าพูดแบบ All you _ _ _ _ is Kill ก็คงเป็นการรีเซ็ตล่ะมั้ง พลังพิเศษที่โคตรโกงยิ่งกว่าการอ่านใจ แม้จะมีสมุดบันทึกของโนโ_กะแห่งเน_มะ ก็เอาชนะไม่ได้ 555+ แม้ถ้าจะว่าไปแล้วจะแพ้ทางพวกที่ชนะโดยไม่ฆ่าก็เหอะ อย่างแช่แข็ง สาปให้เป็นหิน สะกดจิต บลาๆๆ แต่ก็ยังเป็นพลังพิเศษที่โคตรโกงอยู่ดี

เพียงแต่ว่าในเรื่องนี้ พระเอกของเรามันไม่เอาสกิลนี้ไปเก็บเลเวลอื่นๆของตัวเองแบบหนังเรื่อง E_ge of To_orr_w หรอกนะครับ เพราะกว่ามันจะรู้ตัวว่าตัวเองมีพลังนี้ เรื่องก็ดำเนินไปราวๆ 60-70% ของเล่ม 1 ล่ะ 555+ รู้ตัวช้าเป็นบ้า ทั้งๆที่โอ้อวดว่าตัวเองชิวๆกับโลกต่างมิติเพราะวัฒนธรรมโอตาคุที่เสพมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยคิดว่าการมาโลกต่างมิติเป็นเรื่องธรรมดา แต่ดันไม่เก็ตกับพลังพิเศษระดับเทพซะงั้น

อืมมม ยังไงดีล่ะ รวมๆแล้วก็เป็นเรื่องอย่างที่เห็นนี่แหละครับ คอนเซ้ปของเรื่องอยู่ที่พลังพิเศษของพระเอกเป็นหลักในการวนลูปเรื่อยๆ พล็อตเรื่องนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไร เหมือนเล่นเกมแล้วมีชีวิตไม่จำกัด ก็เกิดใหม่มาลองไปเรื่อยๆจนกว่าจะผ่านนั่นแล

ถ้าให้สปอยเล่ม1จริงๆ โครงเรื่องนอกเหนือจากพลังพิเศษพระเอกก็คือ นางเอกโดนขโมยของก็เลยมาตามเอาคืน พระเอกมาช่วยด้วย แล้วดันเจอฆาตกรโหดปรากฎตัวออกมาเป็นบอส พระเอกมันก็เลยวนลูปหาทางผ่านบอสไปเอาของคืน จบ

โดยสรุปแล้ว เป็นเรื่องที่เหมาะกับคนที่ชอบแนววนลูปอะนะ ยิ่งถ้าอ่าน All you...(ขอละไว้) หรือดูหนังเรื่อง E_ge of To_orr_w มา แล้วชอบ ก็น่าจะชอบเรื่องนี้เหมือนกันล่ะมั้งครับ
ความน่าสนใจ : 2/5

20/11/57

Busou Chuugakusei 2045 - Natsu / หลัักสูตรมัธยมต้นติดอาวุธ ภาคฤดูร้อน 2045

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Action Drama
จำนวนเล่ม : 3 เล่มจบ
เรื่องย่อ : ‘หลักสูตรการเรียนป้องกันประเทศ’ ถูกตราขึ้นในยุคสมัยที่มีการฝึกฝนเด็กหนุ่มสาวขึ้นมาเพื่อเป็นบุคลากรในการป้องกันประเทศ ในฤดูร้อนของปี 2045 คุซากะ เรจิ นักเรียนชั้นมัธยมสามของโรงเรียนป้องกันประเทศโตโตะถูกสั่งระงับการหยุดพักฤดูร้อนเอาในวันสุดท้ายของภาคเรียน และถูกเรียกไปยังห้องอาจารย์ใหญ่ โดยมีเพื่อนร่วมชั้นอีกสามคนถูกเรียกตัวไปพร้อมกัน

ปลายทางของการเรียกตัวกะทันหันอันน่าสงสัยนั้น กลับกลายเป็นการส่งตัวพวกเขาไปโอกินาว่า โดยมีเด็กสาวชื่อ ยางามิ โทวะรอพวกเขาอยู่

เรื่องราวบอยมีทเกิร์ลกลางสนามรบ ที่มีเกาะทะเลใต้เป็นเวที เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นผลงานของคนเขียนที่ไม่ถนัดเขียนเรื่องยาวสักเท่าไหร่ ความยาวของเรื่องก็เลยไม่มากอย่างที่เห็นครับ ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาก็เป็นเล่มเดียวจบมั้ง แต่ในซีรีย์นี้เอง รู้สึกจะออกมาหลายภาคนะครับ นอกจากภาคนี้แล้ว ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะมีภาค Zero แล้วก็ภาค Basket Army อะไรสักอย่างเนี่ย อ้อ ภาค BA เป็น Anime นะ ฉายจบไปแล้วด้วย

เอ๊ะ นอกเรื่องไปพอสมควร กลับมาที่นิยายเล่มนี้กันก่อน

เนื้อหาในเรื่องนั้น ผู้เขียนจะปูทางมาจากความเป็นจริงทั้งสิ้น ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2 ญี่ปุ่นเป็นประเทศแพ้สงคราม ถูกอเมริกาเอาเปรียบ บลาๆๆ ไล่มา จนกระทั่งมาถึงยุคอนาคต ในปี 2045 ซึ่งเป็นเวทีของนิยายเรื่องนี้ ตัวร้าย(?)ในเรื่องก็เลยยังคงเป็นชาวอเมริกาอยู่ครับ 555+ สงสัยเป็นความไม่พอใจโดยส่วนตัวของคนเขียนล่ะมั้ง แต่ถึงอย่างงั้นก็มีความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องอยู่เหมือนกันล่ะนะ


ในด้านคาแรคเตอร์ ตัวละครหลัก 5 คน ถ้าตัดนางเอกออกไป กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนก็จะเป็น พระเอกของเรา ร่างอวตารของเทพสงคราม(ฮา) ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้เป็นที่สุด เป็นเด็กม.ต้น ที่มีสกิลระดับ one man army แค่คนๆเดียวถล่มทหารเจนศึกทั้งกองทัพได้ // พระรองเป็นสุดยอดนักวางแผนที่หัวดีเกินอายุไปไกลลิบ แม้นิสัยจะแย่ไปสักหน่อยก็เถอะนะ // ฝั่งสาวๆเอง คนนึงก็เป็น All Rounder ที่เชี่ยวชาญเรื่องการต่อสู้เป็นรองแค่พระเอก ด้านทฤษฎีก็แพ้แค่พระรอง เป็นตัวละครไฮสเปคสุดๆ แถมยังเชี่ยวชาญการซุ่มยิงอีกต่างหาก  // ส่วนอีกหนึ่งสาวเป็นคนธรรมดา 555+ เป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ไปอยู่ท่ามกลางคนไม่ธรรมดา คาแรคเตอร์พื้นฐานสำหรับอธิบายเรื่องราวให้คนอ่านเข้าใจนั่นเอง

การดำเนินเรื่อง ถ้าพูดถึงในอดีตจะกล่าวอ้างประวัติศาสตร์ต่างๆเรื่อยมา ถ้าพูดถึงปัจจุบันจะใช้ดราม่าที่เกิดจากอดีต หรือเป็นความหลังฝังใจอันแสนจะขมขื่นของตัวละครต่างๆเป็นหลัก เรียกได้ว่ามีเนื้อเรื่องหนักพอสมควร ยิ่งกับตัวละครที่ส่วนมากเป็นเด็กม.ต้นยิ่งทำให้ความหนักหนามันเพิ่มขึ้นอีกด้วยประเด็นที่ว่า ยังเป็นเด็กอยู่เลย แบกรับความมืดไว้ขนาดนั้นเลยเรอะ อะไรเทือกนั้น

อืมม พยายามพูดแบบไม่ให้สปอยเต็มที่แล้วนะเนี่ย 555+

รวมๆแล้วก็เป็นเรื่องที่หนักอยู่ครับ แม้ภาพประกอบและหน้าปก จะพยายามทำให้ดูเหมือนเป็นแนวทั่วไปก็เถอะ แต่ใครที่จะอ่านก็ถามตัวเองก่อนเลย ว่าชอบแนวแอคชั่นหรือเปล่า ดูหนังดราม่าหนักๆแล้วเบื่อจนหลับไปรึเปล่า ไม่อย่างงั้นเสียเงินฟรีนะ เผลอๆจะถอดใจก่อนอ่านจบด้วย

ส่วนคนที่พร้อมจะอ่านแล้ว ก็เตือนไว้อีกเรื่อง ว่าไม่ควรหยุดอ่านกลางคันนะเออ 555+ ซัดยาวรวดเดียวไปเลย มันเป็นสไตล์ที่เหมาะกับแนวดราม่ามากกว่านะ จะได้อินๆ
ความน่าสนใจ : 5/5

18/11/57

Ore ga Ojou-sama Gakkou ni "Shomin Sample" Toshite Rachirareta Ken / นายสามัญชนจอมกวน ป่วนหัวใจยัยคุณหนูไฮโซ

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Love Comedy
จำนวนเล่ม : 7 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : คางุระซากะ คิมิโตะ เป็นเด็กนักเรียน ม.ปลายธรรมดาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่จู่ๆ วันหนึ่งเขากลับถูก “โรงเรียนสตรีเซย์กะอิน” ลักพาตัว!

คุณได้ถูกเลือกให้เป็น ‘ตัวอย่างสามัญชน’ ของโรงเรียนเราค่ะ

โรงเรียนสตรีเซย์กะอินที่คงธรรมเนียมและแบบแผน(?)แห่งนี้ เต็มไปด้วยลูกคุณหนูตระกูลผู้ดีศึกษาอยู่ พวกเธอถูกเลี้ยงดูแบบไข่ในหินโดยไม่เคยออกไปนอกโรงเรียนหรือพบปะ “ผู้ชาย” รุ่นราวคราวเดียวกันมาก่อน เพื่อให้พวกเธอเติบโตโดยมีภูมิคุ้มกันเรื่องผู้ชายและการเข้าสังคม คิมิโตะจึงได้รับเลือกเป็น “ตัวอย่างสามัญชน” ทว่าสำหรับพวกคุณหนูที่ไม่รู้จักมือถือ เกม หรือแม้กระทั่งหนังสือการ์ตูน “สามัญชน” กลับเป็นคือสิ่งที่พวกเธอหลงใหลใฝ่ฝัน…!?

ชีวิตที่จู่ๆ ก็กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมในกลุ่มลูกคุณหนูทั้งหลายเริ่มต้นขึ้นแล้ว! นี่คือเรื่องราวเลิฟคอเมดี้ในรั้วโรงเรียนซึ่งจะเติมเต็มหัวใจของคุณ!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นเลิฟคอมในรั้วโรงเรียนที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆโดยสิ้นเชิงครับ แม้จะเป็นแนวเดียวกัน แต่อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าซ้ำซากเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากโครงเรื่องวางพล็อตไว้ว่าเป็นโรงเรียนกลางป่าเขาที่ปิดกั้นตัวเอง ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก ทำให้เหล่าคุณหนูโลกสวยทั้งหลายใสซื่อไร้เดียงสามาก ข้าวของจากโลกภายนอกทุกอย่างที่พระเอกเอาไปให้ดู ล้วนแปลกใหม่ และทำให้พวกเธอสนใจอยู่ตลอดเวลา การเดินเรื่องก็เลยมักจะเป็นในส่วนนี้นี่แหละครับ เอะอะอะไรก็สามัญชนสุดยอด รากหญ้าจงเจริญ กันไปหมด

ประกอบกับที่ว่าไม่ติดต่อกับโลกภายนอกนั่นแหละ สิ่งมีชีวิตต่างเพศคนแรกในชีวิตของพวกเธอก็เลยเป็นไอ้พระเอกของเรานี่เอง การที่เขาจะได้รับความสนใจจนมีสาวๆลูกคุณหนูหลายคนแอบชอบพออยู่ ก็เลยสมเหตุสมผลในระดับนึง

ในด้านคาแรคเตอร์ แม้จะมีคาแรคเตอร์เดิมๆให้เห็นอยู่บางในกลุ่มตัวละครรอง แต่ตัวนางเอกกลับมีบุคลิคเป็นของตัวเองสุดโต่งครับ นั่นคือใสซื่อ เชื่อคนง่าย ใครพูดอะไรมาก็เชื่อหมด ก็เลยโดนพระเอกมันแกล้งหลอกเล่นอยู่ร่ำไป 555+ และด้วยนิสัยแบบนี้เองที่ทำให้เธอเป็นคนโกหกใครไม่เป็นด้วย

ตัวนางรองเด่นๆก็มีคาแรคเตอร์เดจาวูอยู่นิดหน่อยเช่นโลลิอัจฉริยะชอบถอด ระหว่างเข้าโหมดไอสไตน์ประทับทรง จะเผลอแก้ผ้าโดยไม่รู้ตัว หรือคุณหนูเดสสึหวา ที่เป็นคุณหนู ออฟ คุณหนู พูดแค่นี้นึกภาพออกเลยสิ 555+ แล้วก็ยามาโตะนาเดชิโกะ ที่ไม่ว่าเรื่องไหน พอพูดชื่อนี้ จะต้องนึกถึงสาวในชุดฮาคามะ ผมสีดำยาวสลวย และ...พกดาบคาตานะ -_- อืม นั่นแหละ เรื่องนี้ก็แบบนั้นเหมือนกัน 555+


อ้อ แล้วก็เรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นเอง ปกในบางเล่มจะมี 2 แบบอย่างที่เห็นในรูปข้างบนนะครับ ตอนนี้เท่าที่รู้มามีเล่ม5 กับ เล่ม7ล่ะมั้ง โดยปกแบบหวิวนี้จะมาพร้อมกับดราม่าซีดี อะไรพวกนั้น ซึ่งในไทยเองก็คงจะมีให้เหมือนกันล่ะมั้ง ดูจากสนพ.แล้ว น่าจะทำปกเสริมมาในรูปแบบของให้แลกล่ะมั้ง เก็บการ์ดกันเอาไว้ล่ะ ไม่ก็ทำเป็นแพ็คเก็ตขายแยกต่างหากสไตล์ Limited Edition คงเหมือนเรื่อง มังกรซึน นั่นแหละเนอะ

ในส่วนของสนพ.ไทยเอง ในเรื่องพิมพ์ตกหล่นหรือผิดพลาดอะไรนั้น ไม่มีให้เห็นเลย ราคาก็อยู่ในระดับพอรับได้ รูปเล่มก็ใช้ได้ตามปกติของสนพ.นี้ ที่เข้าเล่มได้ค่อนข้างประทับใจทีเดียว รวมๆแล้วใช้ได้เลยครับ
ความน่าสนใจ : 3/5

17/11/57

Kohitsuji wa Mayowanai / ยัยแว่นปากร้ายกับสภาลูกแกะไม่หลงทาง

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Comedy
จำนวนเล่ม : 6 เล่มจบ
เรื่องย่อ : ที่นี่คือ “สภาลูกแกะไม่หลงทาง” หน่วยงานซึ่งคอยแก้ปัญหาทุกข์ร้อนใจของเหล่านักเรียน นารุตะ มะอิจิโร่ ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาฯ จึงต้องวิ่งพล่านแก้ปัญหาพิลึกพิลั่นที่เข้ามาเสมอ ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับ เซมบะ อากิ สาวน้อยผมยุ่งที่กบดานอยู่ในห้องข้างๆ สภานักเรียน พอลองถามความเห็นเรื่องปัญหา เธอก็ปากเสียใส่เขา แต่กลับไขปัญหาได้ตรงเผงเสียนี่…!

ที่ “สภาลูกแกะไม่หลงทาง” ดังขึ้นมาได้ เป็นเพราะเซมบะคนนี้เลยนะ!!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้เป็นสไตล์สืบสวนแบบเบาๆ แบ่งเป็นตอนสั้นๆในเล่ม แต่ละตอนก็จะมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ ถ้าเป็นเรื่องง่ายๆ พวกพระเอกก็จะแก้ปัญหากันเองได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องยากๆเมื่อไหร่ พระเอกของเราก็จะต้องมาให้นางเอกด่าก่อนที่จะยอมช่วย (ฮา)

ซึ่งปัญหาก็จะมีร้อยแปดมาก ตั้งแต่เรื่องความรัก ไปจนถึงดราม่าในครอบครัว และพวกตัวหลักเองก็มีปมต่างๆซุกซ่อนอยู่ ซึ่งจะค่อยๆเปิดเผยขึ้นมาทีล่ะน้อยๆระหว่างที่ช่วยแก้ปัญหาของคนอื่น จึงเรียกว่าเป็นโครงเรื่องที่ยังไม่ค่อยมีอยู่ในไทยสักเท่าไหร่นักครับ

นอกจากนั้น ด้วยความที่ใช้การเดินเรื่องแบบแบ่งเป็นตอนย่อย แต่ตัวละครหลักมีไม่กี่ตัว และตัวละครรองๆที่โผล่เข้ามาขอความช่วยเหลือก็ดันมีความสัมพันธ์กันอีก ทำให้จดจำตัวละครได้ง่าย

ในส่วนของสนพ.ไทยก็ทำได้ดี จุดพิมพ์ผิดมีอยู่น้อยมาก ราคาก็ไม่จัดว่าแพง รูปเล่มก็ใช้ได้ตามมาตรฐานของสนพ.นี้ จึงเป็นเรื่องที่เหมาะกับการอ่านเล่นได้ดีทีเดียวครับ
ความน่าสนใจ : 3/5

13/11/57

Oooku no Sakura / ซากุระ บุปผาพิฆาต

สำนักพิมพ์ : Animag / A-Plus
แนวเรื่อง : Action Drama
จำนวนเล่ม : 7 เล่ม - ยังไม่จบ (6เล่ม + 1เล่ม ภาคพิเศษ)
เรื่องย่อ : โลกยุคปัจจุบันที่วัฒนธรรมต่างผสมปนเป มีทั้งปืนคาบศิลา โทรศัพท์มือถือ กิโมโน ตลอดจนทีวีเกมอยู่ในยุคเดียวกัน มี "ตำหนักใน" อยู่ที่ส่วนลึกสุดของปราสาทโอซาก้าเหรอ!?

โทโยโทมิ ฮิเดคาเกะ บุตรคนหนึ่งของตระกูลโชกุนโทโยโทมิ ได้ลอบเร้นเข้าไปในฮาเรมซึ่งรวบรวมสาวงามแห่งนั้น ด้วยหน้าภารกิจของสำนักงานตรวจสอบ "ฮาเกทาเกะ"

ทว่า สิ่งที่เขาเห็นคือ "โรงเรียนสตรีตำหนักใน" ซึ่งจัดให้เหล่าสาวงามต่อสู้กันเพื่อความบันเทิง ในฐานะการแสดงอย่างหนึ่ง และสาวน้อยที่สู้กันตัวโชกเลือดผู้นั้นก็คือเด็กสาวชื่อซากุระ รักแรกของเขา!?

ชีวิตภายในรั้วโรงเรียนซึ่งแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้อย่างเด็ดขาดเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้ถ้าอ่านเรื่องย่อภาษาไทยข้างบนอาจจะเข้าใจว่าเป็นสคูลไลฟ์เลิฟคอม แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ ในเรื่องไม่มีเนื้อเรื่องในรั้วโรงเรียนให้เห็นเลย แม้จะใช้คำว่า "โรงเรียนสตรี" แต่มันก็แค่ชื่อเท่านั้น แต่เป็นสถานที่สำหรับฆ่ากันต่างหาก โดยเด็กสาวแต่ล่ะคนที่อยู่ในนั้นจะเป็นลูกสาวเจ้าเมืองต่างๆ เรียกว่าเป็นตัวแทนของแต่ล่ะเมืองนั่นเอง กลายเป็นสงครามเซนโกคุที่แค่ส่งผู้หญิงออกมาเป็นตัวแทน ในขณะที่คนอื่นๆมุดหัวอยู่ในที่ปลอดภัย นั่งดูเฉยๆ

โครงเรื่องวางไว้ว่าเป็นโลกที่ประวัติศาสตร์บิดเบือนไปจากที่รู้ๆกัน ศึกเซกิงาฮาระ อันเป็นสงครามใหญ่ครั้งหนึ่งในยุคเซนโกคุ จบลงด้วยฝ่ายตระกูลโทโยโทมิ ใช้ระเบิดห้วงมิติเวลา(ไม่มั่นใจชื่อ) คว้าชัยชนะมา แต่ผลกระทบก็ใหญ่หลวงมาก ทำให้กลายเป็นญี่ปุ่นแบบที่ปรากฎอยู่ในนิยายเล่มนี้นั่นเอง ทั้งการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศที่ทำแทบไม่ได้ ยุคสมัย และความเจริญทางเทคโนโลยีที่บิดเบี้ยว ผู้คนกลายพันธุ์ หญิงสาวบางส่วนกลายเป็นผู้มีพลังพิเศษ

ตำหนักใน ที่อ้างชื่อว่าเป็นโรงเรียนสตรี ก็กลายเป็นสถานที่สำหรับฆ่ากันด้วยพลังพิเศษ โดยการต่อสู้จะเป็นในลักษณะท้าประลอง มีการจัดอันดับ ยิ่งอันดับสูงก็ยิ่งได้รับความสะดวกสบาย อันดับ1จะได้สิทธิ์ในการเป็นมเหสีของโชกุน แล้วก็ลดหลั่นกันลงมา

การดำเนินเรื่องใช้ดราม่าเกือบเพียวๆ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ทรมานของพระเอก เนื่องจากตัวเองเป็นต้นเหตุให้บ้านเกิดของนางเอกโดนทำลาย และตัวนางเอกก็โดนตัดแขนตัดขาทิ้งให้ตายด้วย แม้เธอจะรอดมาได้ พระเอกซึ่งได้มาเจอกับนางเอกอีกครั้งก็ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนเพราะกลัวจะโดนรังเกียจ หรือเรื่องพลังพิเศษเอง บางคนก็ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นจากการฝึกฝน แต่เป็นการเอาศพของครอบครัวตัวเองที่มีพลังพิเศษคล้ายกัน แล้วเอาเลือดเนื้อ หรือซากศพมาใช้พาวเวอร์อัพพลังพิเศษของตัวเอง หรือในตำหนักในเองก็มีแต่เรื่องดราม่า เช่นเพื่อนสนิทฆ่ากันเองเพื่อแย่งตำแหน่ง ฆ่าผู้มีพระคุณ โดนพี่น้องแทงข้างหลัง หลอกลวงคนที่ตัวเองรักเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด ทรยศหักหลัง บลาๆๆ

แถมการฆ่าในเรื่องก็โหดร้ายจนคิดว่าไม่เหมาะกับเด็กสักเท่าไหร่ เช่นการฉีกเป็นชิ้นๆ เลือดสาดกระจาย การเอาหอกแทงเข้าไปในปาก ทะลุออกไปข้างล่าง แล้วไปปักไว้บนพื้น ฯลฯ

เรียกว่าเรื่องหนักพอสมควรครับ ไม่เหมาะกับเด็ก หรือคนที่ไม่ค่อยชอบเรื่องราวที่มีเนื้อหาหนักๆสักเท่าไหร่ พวกสายอวย จะอวยตัวละครตัวไหนก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วย 555+

การบรรยาย ผู้เขียนบรรยายไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ตัดฉาก หรือเปลี่ยนตัวละครที่บรรยายอยู่เป็นสไตล์แบบนึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเลย อ่านย่อหน้านี้ ยังพูดถึงพระเอกอยู่ อยู่ดีๆกลายเป็นคนอื่นไปซะเฉยๆ อะไรพวกนี้เยอะทีเดียว รวมๆแล้วถ้าอ่านแล้วมึนงง ไม่เข้าใจ น่าจะเป็นความผิดของคนเขียนมากกว่าคนแปลล่ะมั้ง

ในส่วนของสนพ.ไทย ส่วนที่แปลผิดมีบ้างเล็กน้อย พิมพ์ตกหล่นผมไม่เห็นนะ ถ้ามีก็คงน้อยมาก ติดเรื่องราคาอย่างเดียว ว่ามันสูงลิ่ว เมื่อเทียบกับเรื่องอื่น
ความน่าสนใจ : 3/5

6/11/57

Masochistic Ecstasy / อลวนคำสาปสุดซี้ด

สำนักพิมพ์ : First Page Pro
แนวเรื่อง : Love Comedy (18+)
จำนวนเล่ม : 3 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : ผม จิกุสะ โคเฮ นักเรียนชั้นมัธยมปลายที่ฝันอยากจะมีแฟนกับเขาสักคน แล้วก็เลิฟเลิฟวี้ดวิ้วกับเขาดูบ้าง ถ้าผมสามารถถอนคำสาปชั่วร้ายทื่ทำให้เกิด “ดวงตาปิศาจ” ได้ละก็…

“ดวงตาปิศาจ” เมื่อใดที่ผมจ้องตาหญิงสาวด้วยความหื่น หญิงสาวคนนั้นก็จะหลงใหลผมแบบโงหัวไม่ขึ้นทันที แต่ถ้าผมจูบหรือว่าทำอย่างว่ากับผู้หญิงที่ตกอยู่ในอำนาจ “ดวงตาปิศาจ” เธอก็จะโกรธแค้นผมไปชั่วชีวิต

ทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายยั่วยวนผมแท้ๆ แต่ผมกลับจูบหรือทำอย่างว่ากับพวกเธอไม่ได้ แล้วผมจะทนได้อย่างไรกันล่ะครับ ช่วยคลายมนต์ “ดวงตาปิศาจ” ให้ผมด้วยเถิด

ขอเชิญพบกับเรื่องราวความรักปนทะลึ่งในรั้วโรงเรียนจากปลายปากกาผู้เขียน “เพราะฉะนั้นผมจึง H มากไม่ได้” ที่จะทำให้คุณรู้สึกซู่ซ่าและละเหี่ยใจไปพร้อมๆกัน!
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้ถ้าว่ากันตามเรตจริงๆมันก็ไม่ใช่ 18+ หรอกนะ น่าจะอยู่แถวๆ 15+ อะไรประมาณนี้แหละครับ แต่ที่เขียนดักไว้ก่อนว่า 18+ เนื่องจากสภาพสังคมในบ้านเรานั้น เด็กคนไหนซื้อเรื่องนี้เอาไว้ แล้วพ่อแม่ หรือพี่สาวน้องสาว หยิบไปอ่านละก็ ขอบอกว่าซวยครับ 555+ ดังนั้นต้องเก็บดีๆเสมือนหนึ่งว่ามันเป็นหนังสือ18+ เลยนะ พวกที่เก็บมาตรฐานอย่างใต้เตียง(ทีนอน) ตู้เสื้อผ้า หรือลิ้นชักอันที่2ของโต๊ะเขียนหนังสือน่ะ อย่าเชียว สาวๆเค้ารู้ทันที่เก็บพื้นฐานพวกนี้อยู่แล้ว ประหนึ่งว่าการซ่อนหนังผู้ใหญ่ไว้ในไดร์ฟ D แล้วตั้งชื่อโฟลเดอร์เนียนนั่นแหละ อ่อนหัดมาก

เอาล่ะ มาพูดกันถึงเนื้อเรื่องบ้าง เรื่องนี้ต้องบอกว่าน่าเสียดายมากครับ แม้จะเป็นโครงเรื่องแนวเลิฟคอมในรั้วโรงเรียนตามปกติทั่วไป แต่คาแรคเตอร์ของพระเอกกำหนดออกมาได้เทพบุตรมาก แม้จะมีดวงตาคำสาปที่ช่วยทำให้ตนเองหื่นกับสาวๆได้ แต่มันก็ไม่ยอมใช้ แถมยังมีเป้าหมายน่าชื่นชมมาก คือมันต้องการคบกับสาวแค่คนเดียว และต้องเป็นคนที่รักมันที่เป็นตัวมันจริงๆซะด้วย นอกจากนั้นพื้นฐานคาแรคเตอร์ก็เป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งในเรื่องของจิตใจ ไม่ยอมใช้อำนาจ หรือบารมีที่มีกดขี่ข่มเหงคนอื่น เรียกได้ว่าเป็นพระเอกที่สเปคสูงทีเดียว

แต่ที่น่าเสียดายเพราะ มันไม่ใช่เรื่องสั้นน่ะสิครับ 555+ กำหนดคาแรคเตอร์ระดับนี้ ถ้าให้ดี เล่มเดียวจบ หรืออย่างมากก็ 2 เล่มนี่แหละกำลังสวยเลย เพราะยิ่งจำนวนเล่มมากขึ้น สาวๆก็โผล่ขึ้นมามากขึ้น สุดท้ายมันอาจจะทำให้พระเอกมันทำอะไรที่ลักลั่นกับบุคลิคของตัวเองเข้าจนได้ และเนื้อเรื่องดีๆก็จะเสียหมด น่าเสียดายเนอะ

ในส่วนของสนพ.ไทยนั้น เรื่องนี้มีจุดพิมพ์ตกหล่น หรือผิดพลาดน้อยในระดับที่ไม่ทำให้เสียอารมณ์เวลาอ่าน ถ้าตัดเรื่องกระดาษและราคาออกไป ก็โอเคอยู่ครับ ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะบ่นๆในเรื่องอื่นไปแล้ว เหอๆ
ความน่าสนใจ : 3/5

4/11/57

Senkou no XX / สงครามหุ่นรบสลับขั้ว

สำนักพิมพ์ : First Page Pro
แนวเรื่อง : Action Comedy
จำนวนเล่ม : 2 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : “ฉันเป็นผู้หญิงเลยขับดับเบิลอิกซ์ได้ ส่วนเธอทำไม่ได้”

นครกลางน้ำ ยูเทรัส กำลังเสี่ยงจะถูกกองกำลังที่ไม่ใช่มนุษย์ชื่อว่า ออร์กัสกับเลเวียส โจมตี ฝ่ายมนุษย์ชาติมีอาวุธเคลื่อนที่รูปแบบมนุษย์ที่เรียกกันว่า “ดับเบิลอิกซ์” สร้างเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว แต่มีข้อแม้ว่านักบินจะต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น แถมยังมีเงื่อนไขอย่างอื่นเพิ่มอีกต่างหาก

ดังนั้นลูกชายของผู้สร้างอาวุธเคลื่อนที่นี้จึงไม่สามารถผ่านเกณฑ์นั้นไปได้ ทว่าเมื่อเขาได้พบกับเด็กสาวปริศนานามว่า วิดี แล้ว เขาจึงได้รับพลังที่สามารถต่อสู้ได้มาครอง

เมื่อดับเบิลอิกซ์ทั้งสามรุ่น B (บัสต์) / W (เวสต์) / H (ฮิป) มาพร้อมหน้าชะตาระหว่างเผ่าพันธุ์จึงได้รับการเปิดเผย

ขอเชิญพบกับเรื่องราวการต่อสู้แนวหุ่นยนต์น่าตื่นเต้นได้แล้ว ณ บัดนี้ !
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้ถ้าใครเป็นแฟนแนวหุ่น โดยเฉพาะสายเรียลโรบอตแล้วซื้อเล่มนี้มาต้องบอกว่า พลาด!!! แล้วครับ เพราะในเรื่องไม่ใช่แนวนั้นเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเรื่องราวของผู้หญิงที่แปลงร่างเป็นเรือรบ เอ๊ย เรือรบที่รูปร่างเป็นผู้หญิง เฮ้ย ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ >.< มันเป็นหุ่นยนต์ที่รูปร่างเป็นผู้หญิงครับ โดยหุ่น 3 ตัวจะมีเรือนร่างสะบึ๋มไปคนล่ะส่วน ทั้งอก เอว สะโพก โดยคนขับจะต้องมีสัดส่วนในส่วนนั้นๆผ่านเกณฑ์ ถึงจะสามารถขับได้อีกต่างหาก

ส่วนฝ่ายศัตรูก็คือกองกำลังก้นสมุทรที่นำโดยปีศาจรูปร่างมนุษย์ ตัวนึงมีเขาคู่เล็กๆ อีกตัวมีเขาเดียวอันยาวๆ อืมมม นี่ถ้ามีตัวเล็กๆชอบเล่นเรปปุอีกสักตัวนี่ใช่เลยนะเนี่ย 555+

ส่วนสถานที่ต่อสู้ส่วนมากก็เป็นกลางทะเล แถมยังยืนบนน้ำกันได้อีกซะด้วย เรียกว่าเป็นอะไรๆที่แลดูเดจาวูหลายอย่างดีจัง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จัด Mental Model ไม่ก็สาวเรือรบออกมาผสมโรงด้วยเลยสิพวก

ส่วนที่แตกต่างมีแค่เนื้อเรื่องล่ะมั้ง (น่าจะแตกต่างนะ ไม่ได้เล่นเกมนั้นเลยไม่รู้เนื้อเรื่องน่ะ) เพราะแนวเรื่องจะไปทางดราม่านิดหน่อย โดยเฉพาะปัญหาในครอบครัวของพระเอก.....เอิ่มมม เรียกนางเอกดีกว่า อืมๆ ก็เอาเป็นว่าเล่มแรกมีธีมเป็นดราม่าของนางเอกเป็นหลักนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงอะไรมากนะ เพราะเนื้อเรื่องมันเหมือนเอาหุ่นโมเอะมาเล่นในโครงเรื่องของเรียลโรบอต เลยดูครึ่งๆกลางๆยังไงชอบกลน่ะ

จุดที่ควรระวังคือเรื่องนี้เปิดตัวละครทีเดียวหลายตัว มาพร้อมกับชื่อเฉพาะอีกเพียบ ตอนอ่านครึ่งเล่มแรกจะงงพอสมควร ดังนั้นถ้าไม่พยายามทำความเข้าใจประหนึ่งกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบ ก็อ่านผ่านเลยครับ แล้วสักพักเราจะจำตัวหลักๆได้เอง ประมาณว่ามี 2 ทางให้เลือก 555+

ในส่วนของสนพ.ไทย จุดแรกเลยที่แปลหุ่นว่า ดับเบิ้ลอิกซ์ อันนี้ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่เหมือนกัน เพราะ LN เล่มนี้ ที่ญี่ปุ่นออกเมื่อต้นปีนี้เอง แต่พวกเล่มที่ออกปี 2012 ผมยังอ่านไม่จบ ก็เลยไม่ได้อ่านเล่มญี่ปุ่นของเรื่องนี้ที่ออกใหม่กว่านั้น แต่ถึงอย่างงั้น สังเกตจากชื่อเรื่อง Senkou no XX เนี่ย ตามเวบต่างๆมันเขียนอีกชื่อนึงของเรื่องนี้เอาไว้ว่า Senkou no Double X นี่สิ เลยคิดว่าชื่อหุ่นน่าจะเป็น ดับเบิ้ลเอ็กซ์ มากกว่า ดับเบิ้ลอิกซ์ รึเปล่าหว่า

อ้อ เพราะเรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นเพิ่งออกเล่ม1เมื่อต้นปี ส่วนเล่ม2ก็เพิ่งออกเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ "ระยะเวลา" อันแสนยาวนานของแต่ล่ะเล่มนะครับ เพราะเล่ม3ยังไม่ออก และพอมันออก ไทยก็ต้องไปเอามาแปล เอามาพิมพ์ แล้วถึงจะวางขายอีก นานแน่ๆนะเออ ใครที่ไม่ค่อยชอบ LN ที่ทิ้งช่วงยาวๆ ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ (จริงๆของสนพ.นี้จะเป็นสไตล์นี้เกือบทั้งหมดนะ)

นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษครับ จุดพิมพ์ตกหล่นอยู่ในระดับที่น้อยจนพอมองข้ามได้ เรื่องสำนวนการแปลก็ยังไม่ถึงกับอ่านไม่รู้เรื่อง

รวมๆแล้วก็เหมาะสำหรับสาวกแม่ย่านางโมเอะ ไม่ก็สาวเรือรบล่ะนะ ส่วนพวกสายเรียลโรบอตก็คงต้องบอกว่าเตรียมใจไว้ด้วย มันไม่ใช่เรียลโรบอตนะครับ
ความน่าสนใจ : 2/5

1/11/57

Boku to Kanojo to Kanojo to Kanojo / รักของผม กับเธอ และเธอ และเธอ

สำนักพิมพ์ : First Page Pro
แนวเรื่อง : Love Comedy
จำนวนเล่ม : 2 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ : “ที่เธอทำตกลงไปในสระคือเด็กผู้หญิงผมสีดำคนนี้งั้นหรือ?”

คันซากิ ยาชิโร่ เด็กหนุ่มท่าทางขี้แหยพระเอกของเรื่อง ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความปั่นป่วนแปรปรวนเพราะเพื่อนสาวสมัยเด็กจอมห้าว โอะโนะ คุโรเอะ อยุ่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่งคุโรเอะได้ตกลงไปในสระน้ำซึ่งมีตำนานเล่าขานว่า “สามารถบันดาลความปราถนาให้เป็นจริง” หลังตอบคำถามของเทพธิดาแห่งสระน้ำไปเขาก็ได้รับเด็กผู้หญิงผมสีทอง “คานาเอะ” และเด็กผู้หญิงผมสีเงิน “กิงกะ” ที่หน้าตาคล้ายกับคุโรเอะแบบสุดๆกลับมาอีกต่างหาก

ด้วยความที่คานาเอะและกิงกะแสดงถึงความรู้สึกที่มีต่อชิโร่อย่างเปิดเผยจนทำให้คุโระเอะรู้สึกไม่สบอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทางด้านยาชิโร่ซึ่งตกอยู่ในความสับสนก็ยังคงต้องวิ่งวุ่นไปกับทั้งสามสาว และพยายามหาหนทางให้ทั้งทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้ง

เลิฟคอมเมดี้ชุลมุนวุ่นรักกับบุปผางามสามสาวสามสไตล์ จากปลายปากกาเจ้าพ่อนิยายดราม่า โนริทาเกะ ทาโอะ ผู้เขียน “เกมเลิฟ พิชิตรัก” ได้เปิดม่านขึ้นแล้ว
ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้โดยส่วนตัวแอบรู้สึกว่าจะต้องมีดราม่าหนักขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนเล่มที่ผ่านพ้นไปล่ะนะ เพราะคนเขียนเขาชอบแนวนี้ และการเปิดเรื่องก็เป็นทำนองเดียวกันเลยด้วย คือเปิดเรื่องด้วยแฟนตาซีโอเวอร์ อย่างเรื่องนี้เองก็เช่นเดียวกัน อยู่ๆนางเอกก็แยกร่างเป็น 3 คนให้พระเอกสร้างฮาเร็มเฉยเลย

แต่ที่แตกต่างจากผลงานเรื่องอื่นๆนิดหน่อยก็ตรงที่ การเดินเรื่องนี้ล่ะนะ ส่วนที่ควรจะให้เป็นเหตุเป็นผล ดันไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่ไอ้ส่วนที่มันไม่ต้องเป็นเหตุเป็นผลมากนักก็ได้ ดันพยายามไปหาเหตุผลมารองรับซะอย่างงั้น ยกตัวอย่างเช่น การแยกร่างเป็น 3 คนเนี่ย พยายามอธิบายเหตุผลรองรับเยอะมาก แถมยังมีเทพธิดาออกมาอธิบายทฤษฎีอีกต่างหาก แต่ผลลัพธ์ของการแยกร่างเป็น 3 คน ดันให้คนนอกยอมรับได้หน้าตาเฉยเลย อย่างพ่อแม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการที่อยู่ๆลูกสาวก็แบ่งตัวอย่างกับสัตว์เซลล์เดียว หรือเพื่อนฝูงที่รู้ความจริง ก็ดันยอมรับได้แบบไม่หือไม่อือ มันอะไรกันเนี่ย แบบนี้ตัวละครจากเรื่องนี้ หลุดไปต่างโลกได้ทุกคนเลยนะเนี่ย มีคุณสมบัติพร้อม 555+ โดยเฉพาะเรื่องการปรับตัว ไหลตามน้ำเนี่ย สูงส่งมาก

ประกอบกับการเดินเรื่องในส่วนอื่นๆค่อนข้างง่ายเกินไปหน่อย ให้ความรู้สึกเหมือนเร่งๆเขียนยังไงไม่รู้ แตกต่างจากผลงานเรื่ีองอื่นๆของคนเขียนเรื่องนี้ แต่อย่างว่าแหละ คนเราก็ต้องมีเวลาที่มือตกกันบ้างล่ะนะ และผลงานที่เขียนช่วงที่มือตก มันก็เลยพลอยแย่ไปด้วย

ในส่วนของสนพ.ไทย ก็มีจุดที่อ่านแล้วติดขัดอยู่หน่อยๆครับ ซึ่งผมไม่ได้อ่านต้นฉบับของเรื่องนี้เหมือนกัน ก็เลยไม่รู้ว่าคนแปลใช้คำแปลกๆ หรือมันแปลกมาตั้งแต่ต้นแล้ว

รวมๆแล้ว เพราะหลายๆอย่างก็เลยเป็นอีกเรื่องที่ไม่ค่อยอยากแนะนำเท่าไหร่
ความน่าสนใจ : 2/5