24/4/58

Mahou Shoujo Kinshihou / กฎบัตรขจัดสาวน้อยเวทมนตร์

สำนักพิมพ์ : Dexpress
แนวเรื่อง : Fantasy Drama
จำนวนเล่ม : 2 เล่ม - ยังไม่จบ
เรื่องย่อ :นี่คือเรื่องราว 10 ปีหลังจากบัญญัติ ‘กฎหมายห้ามมีสาวน้อยเวทมนตร์’

เมื่อผู้รุกรานจากต่างโลกถูกกำจัดจนหมดสิ้น โลกก็ไม่ต้องการพลังของสาวน้อยเวทมนตร์อีกต่อไป แต่ ‘นางฟ้าแฟชั่นนิสต้า สวีท~☆เบอร์รี่’ กลับฝืนกฎ และออกปราบ ‘คนชั่ว’ เรื่อยมา...

ซากุระ ชินอิจิ ชายหนุ่มผู้หลงใหลในตัวเบอร์รี่ ได้ขอยืมคทาวิเศษจากเพื่อนสมัยเด็กแปลงร่างเป็น ‘สาวน้อยเวทมนตร์’ และไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของเธอ !? ตอนนั้นเอง ทั้งคู่ก็ได้ล่วงรู้ถึง ‘การล่าสาวน้อยเวทมนตร์’ ที่กำลังเกิดขึ้น... !!

เรื่องนี้เป็นฝีมือของใคร? และมีจุดประสงค์อะไร? ม่านแห่งโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายของเหล่าสาวน้อยเวทมนตร์กำลังจะเปิดแล้ว...!!

**เนื่องจากเรื่องนี้ไม่มีเรื่องย่อที่ปกหลัง เลยอ้างอิงเรื่องย่อจากเวบไซต์ขายหนังสือออนไลน์แทนครับ
ความเห็นส่วนตัว :สาวดุ้น!!!!

ถูกต้องแล้วครับ สาวดุ้น นั่นแหละ อ่านไม่ผิดหรอก เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนต์ที่เต็มไปด้วยสาวดุ้น 555+ ใช้คำว่า "เต็มไปด้วย" แสดงว่าไม่ได้มีสาวดุ้นแค่คนเดียว มีตั้งแต่สาวดุ้นประเภทแต่งหญิงแล้วขึ้น ไปจนถึงเอาหมีควายมาแต่งหญิงเลยทีเดียว

แต่ถ้าพูดแบบนี้สงสัยจะกลัวจนไม่กล้าซื้อกันพอดี เลยต้องดักไว้ก่อนว่า สาวจริงก็มีครับ สาวดุ้นมีน้อยกว่าสาวจริงแน่นอนครับ อย่ากลัวไป การนั่งมองรูปปกหน้า ปกหลัง ปกใน หน้าสี บลาๆๆ แล้วเลือกอวยตัวละครซะก่อนที่จะอ่านก็เป็นรสชาติที่น่าสนุกนะครับ กับการลุ้นว่า "ตรูอวยสาวดุ้นรึเปล่าวะ" อะไรประมาณนี้ 555+

ภาพปกของเวอร์ชั่นออริจินอล
เอาล่ะ เล่นมุกดุ้นๆกันมาพอสมควร เข้าเรื่องกันซะทีได้ล่ะมั้ง เรื่องนี้ตอนแรกทำมาเป็นนิยายเล่มเดียวจบครับ ก่อนที่จะเวิร์คมั้ง ก็เลยเอามา remake rewrite recycle หรือจะ re อะไรก็ช่างมันเถอะ ให้ออกมาเป็นเรื่องยาว แน่นอนว่าที่ไทยซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาคือเวอร์ชั่น rewrite เรียบร้อยแล้วน่ะนะ

โดยเรื่องจะเน้นความเป็นดราม่าปวดตับ ที่สะท้อนให้เห็นชีวิตของสาวน้อยเวทมนต์หลังจากปราบเหล่าร้ายที่มาจากนอกโลกไปแล้ว พวกเธอเป็นยังไงกันต่อครับ ซึ่งบางส่วนก็ถอนตัวกลับไปเป็นเด็กธรรมดา บางส่วนก็เลือดรักความยุติธรรมแรงกล้า ทำตัวเป็นศาลเตี้ยออกกระทืบคนชั่วในเมืองต่อ

และปัญหาก็อยู่ตรงนี้แหละ เมื่อซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังล้นเหลือออกมาไล่จับโจรในเมือง ผู้คนต่างก็เริ่มหวาดกลัว ว่าสักวัน พลังอันแข็งแกร่งนั้นจะหันมาหาตัวเอง จนต้องร่างกฎหมายห้ามใช้เวทมนต์ และตัวตนของสาวน้อยเวทมนต์กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

อ่านแล้วแม้จะคล้ายคลึงของคอมมิคชื่อดังของฝั่งตะวันตก ที่ไอ้บ้าเตารีดกับไอ้โล่ยุคหินตีกันกับประเด็นพรรค์นี้ เดือดร้อนไปถึงไอ้หนุ่มที่โดนแมงมุมกัดโดนหางเลข ไปๆมาๆกลายเป็นสงครามฮีโร่ก็เถอะ

แต่ก็พอจะเรียกได้ว่าเรื่องนี้เอามาแค่แรงบันดาลใจ กับพล็อตส่วนที่เป็นต้นเรื่องเท่านั้นล่ะมั้ง แต่การเดินเรื่อง การเชื่อมโยงเนื้อเรื่องเข้าสู่ดราม่าอันเป็นไคลแม็กซ์นั้นแตกต่างกันพอสมควรครับ เรียกได้ว่าเป็นนิยายที่มีกลิ่นอายของคอมมิคฮีโร่จากดินแดนตะวันตก แต่เปลี่ยนรูปแบบของฮีโร่เหล่านั้นให้เป็นสาวน้อยเวทมนต์เพื่อให้โอตาคุเข้าถึงง่ายเท่านั้นแล แถมเหล่าสาวน้อยเวทมนต์ในเรื่อง ถ้าเป็นผู้ที่มีชั่วโมงบินอยู่ในโลก2Dมายาวนานน่าจะคุ้นเคยกับพวกเธอดีล่ะ มีทั้งเซเลอร์มูน เรย์เอิร์ท ฯลฯ เรียกว่าเหล่าสาวน้อย(?)เวทมนต์รุ่นป้า อยู่กันพร้อมหน้าเลยทีเดียว แม้จะแก้ไขชื่อนิดหน่อยเพื่อป้องกันโดนฟ้อง แต่ยังไงมันก็สัมผัสได้แหละ

จุดที่ควรระมัดระวังมีแค่เรื่องที่ว่ามันเป็นแนวดราม่าเลือดสาด ดังนั้นคนที่ดูมาโดกะแล้วจิตตกกับรสชาติอูมามิ ไม่ควรอ่านเรื่องนี้ครับ เพราะการตายของสาวน้อยเวทมนต์หลากหลายรูปแบบจะมีอยู่ในเรื่องนี้แน่นอน ทั้งสภาพแหลกเละเป็นเนื้อบด โดนแก้ผ้าแล้วรัดคอ โดนซ้อมจนอาหารเช้าทะลักออกจากปาก ฯลฯ ดังนั้นถือว่าเตือนแล้วนะเออ

ในด้านของคาแรคเตอร์ตัวละครหลัก พระเอก...อืม อ่านไม่ผิดหรอก พระเอกนั่นแหละ บอกแล้วใช่มั้ยว่าเป็นสาว(ดุ้น)เวทมนต์น่ะ เอาล่ะ พระเอกนั้นค่อนข้างงี่เง่าครับ จิตใจอ่อนไหว คิดอะไรเหมือนเด็กๆ วาดฝันว่าโลกนี้ช่างเต็มไปด้วยดอกไม้ เวลาโดนตวาดก็หงอ เรียกว่าคาแรคเตอร์เหมือนลูกหมาตัวเล็กๆที่ยะงไม่เคยเผชิญกับความจริงของโลกภายนอกล่ะมั้ง

รวมๆแล้วเลยเป็นแฟนตาซีดราม่าอันหนักหน่วง เหมาะสำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานครับ และในฉบับภาษาไทย ต้องเพิ่มออฟชั่นเสริมลงไปด้วยว่า นอกจากนั้นต้องเป็นผู้ที่มีที่เก็บหนังสือเพียงพอ และมีเงินในกระเป๋าเพียงอ เพราะไซส์หนังสือมันห่างไกลกับนิยายของสนพ.อื่นราวๆ 2 เท่า ราคาก็มากกว่าชาวบ้านเค้า 2 เท่านั่นเอง ว่าแล้วเลยเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เคยพูดถึงในเฟสบุ้คก่อนที่จะโดนซื้อลิขสิทธิ์ และก็เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจซื้อของญี่ปุ่นล่ะมั้ง

ส่วนความน่าสนใจ ก็แน่นอนว่าถ้าตัดเรื่องไทยๆอันน่าเศร้าออกไป มันย่อมไม่มีข้อกังขาอยู่แล้ว ยังไม่มีเรื่องไหนมาแนวนี้เลยนี่นา ไร้คู่แข่ง
ความน่าสนใจ : 5/5